เงินบาทเปิด 31.18 ต่อดอลล์ แนวโน้มแกว่งในกรอบ 31.10-31.25 ตลาดรอปัจจัยใหม่

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เช้านี้เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 31.18 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวใกล้เคียงกับช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.19 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้ทรงตัวจากเมื่อวาน เนื่องจากตลาดยังขาดปัจจัยใหม่ ขณะที่ดอลลาร์มีทิศทางอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเยนและยูโร แต่ค่าเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวแบบผสม โดยสัปดาห์นี้มีปัจจัยสำคัญที่ตลาดรอดู คือ ผลประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในวันพฤหัสฯ

“บาททรงตัวในระดับใกล้เคียงกับช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ ทิศทางไซด์เวย์ ตลาดรอปัจจัยใหม่เข้ามา”

นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 31.10 – 31.25 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (7 มิ.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.26484% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.31267%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.44 เยน/ดอลลาร์ จากวานนี้ที่ระดับ 109.42/45 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2183 ดอลลาร์/ยูโร จากวานนี้ที่ระดับ 1.2158/2160 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.205 บาท/ดอลลาร์
  • “สมาคมตราสารหนี้ไทย” เผย ตลาดหุ้นกู้คึกคัก นักลงทุนแห่ซื้อเกลี้ยง เหตุจากผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก เอกชนเตรียมขายมิ.ย.อีกกว่าแสนล้าน-ครึ่งปีหลังไม่ต่ำ 4 แสนล้าน ดันทั้งปีแตะ 7.5 แสนล้าน
  • “เฟทโก้” คาดรัฐบาล เดินหน้าฉีดวัคซีน-เปิดประเทศได้ตามแผน หนุนหุ้นไทยปี 65 พุ่งทะลุ 1,800 จุด พร้อมทบทวนเป้าดัชนีปีนี้ จากที่คาด 1,650 จุด
  • ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าบุคคล ธนาคารทหารไทยธนชาต (ทีทีบี) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตใหม่ ทีทีบี รีเซิร์ฟ ให้กับลูกค้ากลุ่มที่มีความมั่งคั่ง (เวลธ์) 80,000 ราย แบ่งเป็น 2 รูปแบบ ทั้งทีทีบี รีเซิร์ฟ ซิกเนเจอร์ สำหรับลูกค้ามีเงินออม เงินลงทุน ประกันชีวิตกับทีทีบี 5 ล้านบาทขึ้นไป และทีทีบี รีเซิร์ฟ อินฟินิท ลูกค้าต้องมีเงินออม เงินลงทุนประกันชีวิต 30 ล้านบาทขึ้นไป เป็นกลุ่มเวลธ์ที่เป็นผู้บริหารประสบความสำเร็จ และกลุ่มคนที่ใกล้เกษียณ เพื่อให้ลูกค้ามีความมั่งคั่ง ยั่งยืน และลงทุนอย่างเหมาะสม ตั้งเป้าหมายฐานลูกค้าบัตรเครดิตทีทีบี รีเซิร์ฟ 30,000 ราย ในปี 64
  • ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า ผลการวิเคราะห์แนวโน้มการส่งออกไทยในปี 64 พบว่ากลุ่มสินค้าที่มีแนวโน้มขยายตัวได้ดีตลอดปีนี้ ต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า ได้แก่ สินค้ากลุ่มอาหาร ซึ่งยังมีอัตราการเติบโตสูง ทั้งผัก ผลไม้สด แช่แข็งกระป๋องและแปรรูป อาหารทะเลแปรรูป เครื่องดื่มสิ่งปรุงรสอาหาร น้ำผลไม้ อาหารสัตว์ เนื่องจากได้ปัจจัยบวกจากราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวขึ้น และแนวโน้มความต้องการบริโภคสินค้าสุขภาพ
  • “สทท.” ลุ้นไทยฝ่าโจทย์หินยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน “เป็นศูนย์” ติดต่อกัน 15-30 วันขึ้นไป หนุน “จีนเที่ยวไทย” คัมแบ็คช่วงโกลเด้นวีคหยุดยาว “วันชาติจีน” ต.ค.นี้ หากทางการจีนอนุญาตให้ชาวจีนออกนอกประเทศได้ มั่นใจกระตุ้นตลาดจีนเที่ยวไทย เดือนต.ค. ฟื้นตัวไม่ต่ำกว่า 30% ก่อนขยับเป็น 50% ธ.ค. กลับสู่ภาวะปกติ 100% ครึ่งหลังปี 65
  • มาตรการดึงดูดชาวต่างชาติเข้าไทย 1 ล้านคนสะดุด! หลังชงข้อเสนอเข้า ศบศ. ให้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากรายได้ในไทยอัตราคงที่ 17% ต่ำกว่าที่คนกลุ่มอื่นเสียสูงสุด 35% รอ “สุพัฒนพงษ์” หาข้อสรุปทำ “นายกฯ” หงุดหงิดมาตรการไม่คืบ
  • ไทยติดเชื้อเพิ่ม 2,419 ราย คร่าอีก 33 ชีวิต หายป่วยเกือบ 3 พัน กทม. เจอคลัสเตอร์ใหม่แคมป์ก่อสร้างคอนโดฯ รวดเดียว 347 ราย สมุทรปราการโผล่อีก 4 กลุ่ม กรมวิทยาศาสตร์ฯ จับตาไวรัสกลายพันธุ์ 3 สายพันธุ์ ห่วงลูกผสม-ติดเชื้อต่างสายพันธุ์ในคนเดียวกัน
  • สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2564 หดตัวลง 3.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งดีกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่าหดตัวลง 5.1% และเมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส โดย GDP ไตรมาส 1 หดตัวลง 1% ซึ่งดีกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่าหดตัวลง 1.3%
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 มิ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อ และท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ดี การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐได้สกัดแรงบวกของราคาทองคำในระหว่างวัน
  • นักลงทุนจับตาสหรัฐจะเปิดเผยดัชนี CPI ในวันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค จะพุ่งขึ้น 4.7% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากดีดตัวขึ้น 4.2% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551
  • ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดุลการค้าเดือนเม.ย., ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนเม.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนเม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดิอนมิ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
  • บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจในสัปดาห์นี้ไปที่การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐประจำเดือนพ.ค.ในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะเริ่มคุมเข้มนโยบายการเงินเร็วกว่าคาดหรือไม่

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 มิ.ย. 64)

Tags: , ,
Back to Top