หุ้นไทยปิดบวก 0.29 จุด แกว่งไซด์เวย์หลังไร้ประเด็นบวกใหม่รอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,612.88 จุด เพิ่มขึ้น 0.29 จุด (+0.02%) มูลค่าการซื้อขาย 100,259.61 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์กรอบแคบคล้ายตลาดต่างประเทศทั้งตลาดภูมิภาค-ตลาดยุโรป-ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สช่วงรอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ10 มิ.ย.ก่อนประชุมเฟดกลางเดือนนี้เพื่อชี้ทิศทาง QE นอกจากนี้กลุ่มพลังงานไม่หนุนหลังราคาน้ำมันอ่อนลง โดยตลาดฯเป็นลักษณะเลือกเล่นหุ้นตามปัจจัยเฉพาะตัว โดยหุ้นเปิดเมืองขึ้นได้ดีตอบรับการเร่งฉีดวัคซีน แต่ยังต้องรอดูความต่อเนื่อง พรุ่งนี้คาดตลาดฯยังแกว่งไซด์เวย์ พร้อมให้แนวรับ 1,605 แนวต้าน 1,625 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,612.88 จุด เพิ่มขึ้น 0.29 จุด (+0.02%) มูลค่าการซื้อขาย 100,259.61 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,618.70 จุด และระดับต่ำสุด 1,605.31 จุด
  • ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 618 หลักทรัพย์ ลดลง 967 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 519 หลักทรัพย์

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ในกรอบแคบหลังจากที่ไม่มีประเด็นบวกใหม่เข้ามา ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ ทั้งตลาดหุ้นเอเชีย, ตลาดยุโรป และดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ช่วงรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันที่ 10 มิ.ย.ก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กลางเดือนนี้ ซึ่งตัวเลขเงินเฟ้อจะมีผลต่อการพิจารณา QE ของสหรัฐฯ

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่อ่อนลงยังทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานไม่หนุนตลาด ตลาดฯวันนี้จึงเป็นลักษณะการเลือกเล่นหุ้นรายตัวตามปัจจัยเฉพาะตัว โดยหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเมืองปรับตัวขึ้นได้ดี อย่าง CPN, CRC เป็นต้น แนะจับตาการกระจายการฉีดวัคซีนโควิด-19 จะมีความต่อเนื่องหรือไม่ หลังจากคาดว่าช่วง 2-3 วันแรกน่าจะฉีดวัคซีนได้มาก แต่หลังจากนั้นอาจจะต้องรอดูต่อไปว่าจะสะดุดหรือไม่ พร้อมมองในช่วง 3 เดือนข้างหน้า หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเมืองจะ Outperform ตลาดฯ โดยมีโอกาสโยกการลงทุนจากหุ้น Global plays เข้ามาที่ Domestic plays

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (9 มิ.ย.) นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังแกว่งไซด์เวย์ต่อไปในช่วงรอตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ พร้อมให้แนวรับ 1,605 จุด ส่วนแนวต้าน 1,625 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 6,025.26 ล้านบาท ปิดที่ 124.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท

IVL มูลค่าการซื้อขาย 2,978.37 ล้านบาท ปิดที่ 43.00 บาท ลดลง 1.75 บาท

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,370.79 ล้านบาท ปิดที่ 14.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 2,198.03 ล้านบาท ปิดที่ 61.75 บาท ลดลง 1.25 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,026.08 ล้านบาท ปิดที่ 40.50 บาท ลดลง 0.75 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 มิ.ย. 64)

Tags: , ,
Back to Top