ก้าวไกล ชี้พ.ร.ก.กู้เงินฯ แม้จำเป็นแต่เป็นภาระหนักประชาชน คนกู้ต้องไม่ใช่รัฐบาลนี้

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปราย พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม วงเงินไม่เกิน 500,000 ล้านบาท ว่า การระบาดของโรคโควิด-19 นำมาซึ่งปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อคนตัวเล็กตัวน้อย การกู้เงินต้องรับภาระในอนาคตด้วยการชะลอการพัฒนา ชะลอการปรับปรุงสวัสดิการสังคมต่ำกว่าที่ควรจะได้รับ เพราะรัฐบาลต้องเจียดส่วนหนึ่งไปใช้หนี้ สิ่งสำคัญ คือ วิธีการใช้เงินกู้ของรัฐบาลนี้ เนื่องจากใน พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ในสัดส่วนงบสาธารณสุข 4.5 หมื่นล้านบาทไม่คืบหน้า เพราะเบิกจ่ายเพียง 9,556 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในส่วนโครงการเตรียมความพร้อมด้านสถานพยาบาล วงเงิน 10,132 ล้านบาท เบิกจ่ายไปเพียง 178 ล้านบาท หรือ 1.8% และโครงการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินจากการระบาด วงเงิน 1,497 ล้านบาท เบิกจ่ายไปเพียง 127 ล้านบาท หรือ 8.5% ซึ่งตราบใดก็ตามที่รัฐบาลยังไม่สามารถสร้างความมั่นใจว่า จะควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดได้ ไม่สามารถบอกได้ว่า จะฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้เมื่อไร คงไม่สามารถช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจขึ้นมาได้

“ถ้าควบคุมการระบาดไม่ได้ เศรษฐกิจก็เปิดไม่ได้ แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ก็คาดหวังผลอะไรไม่ได้เลย เพราะการระบาดเกิดขึ้น ทุกอย่างที่ทำลงไปก็พังพาบไปทันที เหมือนคนขาหัก แต่ยังไม่ผ่าตัดดามเหล็ก แถมไปบังคับให้เขาหัดเดิน สุดท้ายไม่แคล้วต้องตัดขาทิ้ง”นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวว่า การตั้งเป้าในการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ที่ต้องการให้ได้อย่างน้อย 70% ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งจากการรายงานปัจจุบัน คนที่ฉีดเข็มแรกยังไม่ถึง 5% ฉีดครบ 2 เข็มไม่ถึง 2% ถือว่าการฉีดวัคซีนยังล่าช้าอยู่มาก

นอกจากนี้ ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก คือ ธุรกิจภาคการท่องเที่ยว เพราะไม่รู้ว่าสถานการณ์จะแย่ไปถึงเมื่อไร รายได้การท่องเที่ยวจากเดิมปีละ 3 ล้านล้านบาท เหลือเพียง 8 แสนล้านบาท และโควิดส่งผลให้คนตกงานไปแล้ว 1 ล้านคน และอาจตกงานถึง 2 ล้านคน

และจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน 15,000 ล้านบาท เบิกจ่ายไปแล้ว 9,010 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเป็นเงินอุดหนุนค่าที่พัก 5,600 ล้านบาท ซึ่งเงินก้อนนี้อุดหนุนค่าที่พักในอัตรา 40% และงบก้อนนี้จะไปชักจูงให้นักท่องเที่ยวชาวไทยจ่ายค่าที่พักเองอีก 60% คิดเป็นมูลค่า 8,400 ล้านบาท และในจำนวนนี้มากกว่า 70% จะจองห้องพักผ่านเอเจนซี่ต่างชาติ ประมาณ 6,000 ล้านบาท สุดท้ายนโยบายนี้เป็นการบีบให้ผู้ประกอบการโรงแรมของไทยต้องไปแข่งขันบนแอปพลิเคชั่นของเอเจนซี่ต่างชาติ และผู้ประกอบการต้องจ่ายค่าโฆษณา ค่าการตลาดให้กับเอเจนซี่ต่างชาติ

นอกจากนี้ กระจายวัคซีนไปยังโรงพยาบาลไม่เพียงพอ และยังล้มเหลวในการบริหารระบบสาธารณสุข จัดหาเตียงไม่เพียงพอ ล้มเหลวในการเยียวยาประชาชน สำหรับพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ถือว่ามีความจำเป็น แต่ปล่อยให้รัฐบาลกู้ต่อไปไม่ไหว ซึ่งคนที่กู้ต้องไม่ใช่รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 มิ.ย. 64)

Tags: , , ,
Back to Top