หุ้นไทยเช้านี้แนวโน้มปรับขึ้นรับคาดหวังศก.ฟื้นหลังกระจายฉีดวัคซีน

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นรับแรงหนุนจากการกระจายวัคซีนในประเทศ และนำวัคซีนทางเลือกเข้ามาเพิ่มเติม แนะติดตามผลประชุม ECB และการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯที่จะที่จะออกมาวันนี้ พร้อมให้แนวรับ 1,620 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630-1,640 จุด อย่างไรก็ตาม Upside ยังจำกัดโดยต้องติดตามตัวเลขเงินเฟ้อเดือน พ.ค. ของสหรัฐฯคืนนี้

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่ามีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้น ได้รับปัจจัยหนุนจากการกระจายการฉีดวัคซีนได้อย่างต่อเนื่อง และโอกาสนำวัคซีนทางเลือกเข้ามาเพิ่มเติม หากยังมีทิศทางแบบนี้จะทำให้ช่วงปลายปีนี้ประเทศไทยจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติเกิดความมั่นใจและเงินทุนไหลเข้ามาต่อเนื่องตลอดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ในวันนี้ต้องติดตามผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดว่าจะยังคงใช้มาตรการทางการเงินที่ผ่านคลายต่อเนื่อง รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่จะประกาศออกมาในวันนี้

พร้อมให้แนวรับ 1,620 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630-1,640 จุด

ขณะที่ บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดแนวโน้มตลาดวันนี้ จะแกว่งตัว Sideways to Sideways Up จากโมเมนตัมระยะสั้นที่เป็นบวกหลังยืนเหนือ 1,625 จุด แต่คาด Upside ยังจำกัด เพราะยังต้องรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อเดือน พ.ค.ของสหรัฐฯคืนนี้ ตลาดคาดเงินเฟ้อทั่วไป +4.7% Y-Y เงินเฟ้อพื้นฐาน +3.4% Y-Y หากออกมาสูงกว่าคาดจะสร้างแรงกดดันจากนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตึงตัวในอนาคต โดยเฉพาะประเด็นการลดขนาด QE ที่คาดว่าจะถูกนำมาพิจารณาในการประชุมสัปดาห์หน้าซึ่งจะกดดันให้ตลาดหุ้นพักตัวระยะสั้น

อย่างไรก็ตามคาดว่าฝั่ง Downside ของ SET Index ยังจำกัดเช่นกันเนื่องจากมีปัจจัยหนุนจากการฉีดวัคซีน COVID-19 เป็นวงกว้าง ซึ่งหนุนให้ภาครัฐทยอยผ่อนคลายมาตรการและกลับมาเปิดเมืองและเปิดประเทศใน 2H21 เป็นต้นไปซึ่งเป็นบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากภาคการท่องเที่ยวกลับมาเดินเครื่อง

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (9 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,447.14 จุด ลดลง 152.68 จุด (-0.44%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,219.55 จุด ลดลง 7.71 จุด (-0.18%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,911.75 จุด ลดลง 13.16 จุด (-0.09%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.87 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 61.06 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 49.39 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (9 มิ.ย.) 1,626.27 จุด เพิ่มขึ้น 13.39 จุด (+0.83%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,760.71 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.64
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (9 มิ.ย.) ปิด 69.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 9 เซนต์ หรือ 0.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (9 มิ.ย.) อยู่ที่ 1.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.16 ทรงตัวจากวานนี้ จับตาประชุม ECB-เงินเฟ้อสหรัฐฯคืนนี้
  • ราชกิจจานุเบกษา ประกาศ 6 ข้อสำคัญปลดล็อกวัคซีนโควิด นายกฯ สั่งตรง สธ.พร้อมให้ท้องถิ่นซื้อวัคซีนผ่าน 5 หน่วยงานราชการได้ “พล.อ.ณัฐพล” ชี้ต้องส่งเรื่องให้ บค.อนุมัติ ดูตามงบฯ-พื้นที่เสี่ยง-พื้นที่เศรษฐกิจ “อนุทิน” ติงกทม.คนพร้อมฉีดแต่วัคซีนน้อย ย้ำจังหวัดจัดสรรวัคซีนภายในพื้นที่เองเผยตั้งแต่ 28 ก.พ.ไทยฉีดวัคซีนแล้ว 5.1 ล้านโดส เฉพาะ 8 มิ.ย.ฉีดเพิ่ม 472,128 โดส
  • พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม สั่งการให้ “รัฐมนตรี” ทุกกระทรวงเร่ง ทำผลงานให้เป็นรูปธรรมในช่วงอายุรัฐบาลที่เหลืออยู่กว่า 1 ปี บรรดานักการเมือง ทั้ง “บิ๊กเนม-โนเนม” ต่างรีเช็คทันทีว่า ไทม์ไลน์การ “ยุบสภา” ที่เป็นไปได้ที่สุดจะอยู่ในช่วงเวลาใด
  • นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติมาตรการช่วยเหลือประชาชน โดยเพิ่มวงเงินเยียวยา 2,000 บาทต่อคน ในโครงการ “เราชนะ” สำหรับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และกลุ่มที่มีแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และโครงการ “ม33 เรารักกัน” ซึ่งประชาชนสามารถใช้จ่ายได้ถึง 30 มิ.ย.นี้ โดยโครงการ “เราชนะ” มีจำนวนผู้ได้รับสิทธิ 33.1 ล้านคน แยกเป็นกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.7 ล้านคน กลุ่มผู้มีแอปพลิเคชันเป๋าตัง 8.4 ล้านคน กลุ่มผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระบบเป๋าตัง 8.6 ล้านคน กลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ 2.4 ล้านคนฃ
  • “พิพัฒน์” เผยหลัง “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” กำหนดเพิ่มเวลาให้อยู่ในจังหวัดจาก 7 วันเป็น 14 วัน ส่งผลให้ต่างชาติที่ตั้งใจมา ลดฮวบทันที 50% พร้อมนำ 5 สมาคม เข้าพบ “สุพัฒนพงษ์-อาคม” ขอนำเงินกู้ 1 หมื่นล้านบาท ตั้งกองทุนฟื้นและพัฒนาท่องเที่ยว เพื่อให้กู้กรณีพิเศษ ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่ให้ผู้ประกอบการค้ำไขว้กันเอง

หุ้นด่นวันนี้

  • EKH (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” เป้า 8.40 บาท คาดกำไร 2Q21 เติบโต Q-Q และไม่ใช่ Low Season เหมือนปีอื่นๆ โดยได้อานิสงส์เชิงบวกจากบริการเกี่ยวเนื่อง COVID-19 ทั้งตรวจเชื้อและรักษา รวมถึงสามารถพลิกจากขาดทุนในปีก่อน โมเมนตัม 2H21 คาดยังโดดเด่นจากการเปิดเมืองและเปิดประเทศ คาดหนุนลูกค้า IVF ชาวจีนกลับมาใน 4Q21 รวมถึงนโยบายสนับสนุนมีบุตร 3 คน เราคาดกำไรปี 2021-2022 +62% Y-Y และ +31% Y-Y ตามลำดับ ทางเทคนิคทะลุแนวต้านย่อย 6.85 บาทเป็น Sentiment บวก
  • CK (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า 21.60 บาท รฟม. เตรียมเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้เส้นทาง เตาปูน – ราษฏร์บูรณะมูลค่างานก่อสร้าง 8.2 หมื่นล้านบาท เราให้ CK เป็นเต็งหนึ่งเพราะงานก่อสร้างส่วนใหญ่เป็นงานใต้ดินซึ่ง CK มีประสบการณ์มากสุด
  • LEO (ทรีนิตี้) “ซื้อ” เป้า 11 บาท ประเมินว่า LEO จะได้รับประโยชน์จาก Container Index ที่ปรับสูงขึ้น ปริมาณลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการขนส่งทางเรือจะมีมากขึ้นตามกการค้าระหว่างประเทศที่เริ่มกลับมาดีขึ้น นอกจากนี้กำไรขั้นต้นต่อตันที่บริษัทได้รับก็จะปรับขึ้นตาม Container Index ที่สูงขึ้นเช่นกัน เบื้องต้นเรายังคงประมาณการกำไรปี 641 ขึ้นมาเป็น 118 ล้านบาท +107% YoY และมีแนวโน้มที่เราจะปรับประมาณการเพิ่มขึ้นด้วยทิศทางของ Container Index ที่ยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังไม่นับรวมรวม upside จากการร่วมธุรกิจกับ China Post ที่จะเริ่มเข้ามาใน H2/64

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 มิ.ย. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top