PRIME เข้าลงทุนโซลาร์ในฟาร์มที่ไต้หวัน 362.28 ลบ.คาด COD ได้ Q3/65

บมจ.ไพร์ม โรด เพาเวอร์ (PRIME) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2564 มีมติอนุมัติให้บริษัท ไพร์ม โซลาร์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (PSE) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ เข้าซื้อหุ้นสามัญจำนวน 50,000 หุ้น (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 ดอลลาร์ไต้หวัน)

คิดเป็นสัดส่วน 100% ของทุนจดทะเบียนของบริษัท JF Energy จำกัด (JF)และซื้อหุ้นสามัญจำนวน 50,000 หุ้น (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 ดอลลาร์ไต้หวัน) คิดเป็นสัดส่วน 100% ของทุนจดทะเบียนของบริษัท JK Energy จำกัด (JK) จากบริษัท KWE Corporation (KWE) ด้วยมูลค่าการเข้าทำรายการเท่ากับ 1,130,000 บาท หรือ 1 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (อ้างอิงจากอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 16 มิถุนายน 2564) เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจในประเทศไต้หวัน โดยภายหลังการทำธุรกรรมดังกล่าว JF และ JK ถือเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ (รายการที่ 1)

ทั้งนี้ JF ดำเนินธุรกิจที่ปรึกษาด้านพลังงานทดแทน, ธุรกิจลงทุนทั่วไป และอุตสาหกรรมการค้าระหว่างประเทศ ส่วน JK ดำเนินธุรกิจที่ปรึกษาด้านพลังงานทดแทน, ธุรกิจลงทุนทั่วไป และอุตสาหกรรมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสองบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นในประเทศไต้หวัน

นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ มีมติอนุมัติให้ JF JK และบริษัท Jingtai Energy จำกัด (Jingtai) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ เข้าลงทุนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งในฟาร์มเลี้ยงปลาในร่ม ระยะที่ 3 ประเทศไต้หวัน โดยมีประมาณการกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งสุทธิรวม 6 เมกกะวัตต์ มูลค่าการลงทุนรวม 362.28 ล้านบาท หรือ 320.60 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (อ้างอิงจากอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 16 มิถุนายน 2564) (รายการที่ 2) โดยการลงทุนโครงการดังกล่าวจะได้รับการสนับสนุนเงินกู้โครงการ (Project Finance)จากธนาคารหรือสถาบันการเงิน 2 แห่ง และเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ

โดย JF JK และ Jingtai จะเข้าทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) สัญญาด้านวิศวกรรมจัดหาอุปกรณ์ และก่อสร้าง (EPC Contracts) การยื่นขอใบอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการ เช่น สัญญาเช่าที่ดิน ใบอนุญาตการเชื่อมต่อโครงข่ายระบบไฟฟ้า ตลอดจนการขออนุญาตดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการ

JF JK และ Jingtai จึงจะดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าตามธุรกรรมการลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้า และคาดว่าจะสามารถก่อสร้างแล้วเสร็จและจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 3 ปี 2565

บริษัทฯ มีนโยบายการดำเนินธุรกิจที่จะขยายการลงทุนโดยมุ่งเน้นไปยังธุรกิจที่สนับสนุนการดำเนินธุรกิจหลักและส่งเสริมให้เกิดการใช้ประโยชน์สินทรัพย์หลักของบริษัทฯ ในปัจจุบันให้เกิดประโยชน์สูงสุดและสามารถต่อยอดธุรกิจปัจจุบันเพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขันและสร้างโอกาสในการเติบโตของบริษัทฯในระยะยาว บริษัทฯ จึงพิจารณาที่จะลงทุนขยายธุรกิจการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อบริษัทฯ ดังนี้

  1. บริษัทฯ จะสามารถรับรู้รายได้จากการให้ขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีรายได้ที่สูงขึ้นและมีกระแสเงินสดและสภาพคล่องที่ดีขึ้น ส่งผลดีต่อการลงุทนพัฒนาโครงการอื่นของบริษัทฯ ในอนาคต
  2. สร้างความมั่นคงในการดำเนินธุรกิจระยะยาว และเสริมความแข็งแกร่งในด้านการเงินของกิจการ
  3. กระจายความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 มิ.ย. 64)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top