ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 3,682 ราย ในปท.1,866-ตรวจเชิงรุก1,776-ตปท.40 ,ตาย 20

  • ศบค.สรุปยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทย วันนี้ (12.00 น.)
  • ผู้ติดเชื้อสะสม 218,131 คน (+3,682)
    • เป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ = 1,866 ราย
    • เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจเชิงรุกในชุมชน = 1,198 ราย
    • เป็นผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง = 578 ราย
    • เป็นผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศอยู่ในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) = 40 ราย
  • รักษาหายแล้ว 183,759 คน (+2,401)
  • รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 32,743 คน (+1,261)
  • เสียชีวิตสะสม 1,629 คน (+20)

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,682 ราย ประกอบด้วย

  • ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,866 ราย
  • จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 1,198 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 578 ราย
  • ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 40 ราย โดยมี 22 รายเข้ามาจากกัมพูชาและเมียนมาแบบผิดกฎหมาย
  • มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 20 ราย เป็นชาย 13 ราย หญิง 7 ราย อายุระหว่าง 26-90 ปี โดย 11 รายมาจากกรุงเทพมหานคร นครปฐม 3 ราย สมุทรปราการ 2 ราย จันทบุรี,ระยอง,สระบุรี,อุบลราชธานี จังหวัดละ 1 ราย

สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 218,131 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 183,759 ราย เพิ่มขึ้น 2,401 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 1,629 ราย

จังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่มขึ้นสูงสุดในวันนี้ ยังคงเป็นกรุงเทพฯ ที่ 836 ราย โดยพบคลัสเตอร์ใหม่ เป็นแคมป์ที่พักคนงาน ในเขตวัฒนาและจตุจักร ทำให้มีคลัสเตอร์ที่เฝ้าระวังรวม 80 คลัสเตอร์

รองลงมา คือ สมุทปราการ 501ราย , สมุทรสาคร 192 ราย , ชลบุรี 175 ราย , นนทบุรี 165 ราย, ปทุมธานี 129 ราย, นครปฐม 127 ราย , ปัตตานี 127 ราย,สงขลา 108 ราย และ นราธิวาส 108 ราย

ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมแล้ว 178,952,163 ราย เสียชีวิต 3,875,235 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 34,401,712 ราย อันดับสอง อินเดีย 29,881,352 ราย อันดับสาม บราซิล 17,883,750 ราย อันดับสี่ ฝรั่งเศส 5,755,496 ราย และอันดับห้า ตุรกี 5,365,208 ราย โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 78

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 มิ.ย. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top