ZoomIn: ส่องหุ้น Tech-Tech consult ปี 65 โดดเด่นรับดีมานด์ Digital Transformation

กระแส Digital Transformation ที่ภาคธุรกิจต่างให้ความสำคัญมากชึ้น และไม่สามารถเลี่ยงได้ เพราะนั่นคือการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้กับธุรกิจ เป็นทางที่จะเข้าถึงลูกค้าและตรงกลุ่มเป้าหมาย จึงหนีไม่พ้นบริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีจะมีความสำคัญไม่แพ้กัน ขณะนี้ตลาดมีความต้องการด้านนี้อยู่มาก เป็นโอกาสให้กับ Tech consult โดยในปี 65 น่าจะเห็นการลงทุนด้านเทคโนโลยีของบริษัทต่างๆมากขึ้น ในอีกด้าน Tech consult ที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างนี้ ปัจจุบันนักลงทุนสถาบันเริ่มให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น ดังนั้นปีนี้ก็คงได้เห็นการเติบโตของหุ้นกลุ่มนี้ อาทิ บมจ.ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป (IIG) บมจ. เบริล 8 พลัส (BE8) บมจ.บลูบิค กรุ๊ป (BBIK)

นายนภนต์ ใจแสน ผู้ช่วยผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า กระแสของ Digital Transformation ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ภาคธุรกิจต่างๆ เริ่มหันมาให้ความสำคัญมากขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจ โดยในช่วงที่ผ่านมาการลงทุนทางด้านเทคโนโลยีของภาคธุรกิจจะเกิดขึ้นในองค์กรขนาดใหญ่เป็นส่วนใหญ่ แต่มองว่าในปี 65 องค์กรขนาดกลางและเล็กจะเริ่มมีการลงทุนด้านเทคโนโลยีมากขึ้น ซึ่งเป็นจะเป็นปัจจัยหนุนต่อกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีในตลาดหุ้นไทยที่จะได้รับประโยชน์

โดยที่ในปี 65 มองว่าเม็ดเงินลงทุนด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลของภาคธุรกิจต่างๆจะออกมาอย่างมาก หลังจากที่ในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา การลงทุนต่างๆมีการชะลอไป แต่ในปี 65 หลังจากภาคธุรกิจเริ่มมีการปรับตัวและสถานการณ์โควิด-19 สามารถควบคุมได้ ทำให้จะเห็นการลงทุนด้านเทคโนโลยีออกมา ปริมาณงานที่จะออกมาประมูลจะออกมาค่อนข้างมาก จากความต้องการของภาคธุรกิจต่างๆที่เล็งเห็นถึงความสำคัญด้านเทคโนโนโลยี และมีการเร่ง Transform ธุรกิจไปสู่ดิจิทัลมากขึ้น

ขณะที่ในแง่ของผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีในตลาดถือว่ามีอยู่ไม่มาก ทำให้การเข้าถึงตลาดของผู้ประกอบสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่าย เมื่อเทียบกับขนาดของตลาดที่มีความต้องการเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มีการแข่งขันน้อย และผู้ประกอบการในกลุ่มเทคโนโลยีที่อยู่ในตลาดหุ้นไทยแต่ละรายมีความเชี่ยวชาญในด้านที่แตกต่างกัน หรือบางรายที่มีความเชี่ยวชาญที่คล้อยกัน อย่างเช่น IIG และ BE8 แต่มองว่าจะไม่เห็นการแข่งขันด้านราคากัน เนื่องจากความต้องการในตลาดมีอยู่มาก และเป็นธุรกิจที่ต้องใช้ทักษะและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทำให้การแข่งขันในธุรกิจดังกล่าวจะไม่เห็นการแข่งขันราคากัน

“มองในตลาดธุรกิจเทคโนโลยีจะเห็นว่ามี Supply น้อยกว่า Demand มาก จากความต้องการของธุรกิจต่างๆที่ต้องการลงทุนด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลมากขึ้น การเร่งของ Digital Transformation ที่ภาคธุรกิจเห็นถึงโอกาสในการเพิ่มศักยภาพ และเม็ดเงินในการลงทุนที่เลื่อนมาจะออกมามากในปี 65 ทำให้ปี 65 ธุรกิจใหญ่ กลาง เล็ก จะมีงานออกมาให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเข้ามาช่วยจำนวนมาก และธุรกิจที่เกี่ยวขอ้งกับเทคโนโลยี หรอื Tech consult ยังเป็นธีมในระดับ Global ที่จะยังคงเป็นดาวรุ่งต่อเนื่อง”

นายนภนต์ กล่าว

ด้านแนวโน้มผลงานของกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีในตลาดหุ้นไทยยังมองว่ามีโอกาสเติบโตขึ้นได้อีกมาก ซึ่งเป็นกลุ่มหุ้นที่จะเห็นทิศทางของผลการดำเนินงานเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปริมาณงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่ยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง และแม้ว่าปัจจุบันราคาหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีจะมีการปรับตัวขึ้นไปค่อนข้างมาก แต่ในส่วนของการลงทุนมองว่าหุ้นในกลุ่มนี้จะเป็นหุ้นที่มีราคาค่อนข้างสูงอยู่แล้ว การลงทุนนั้นนักลงทุนส่วนใหญ่จะมองข้ามในเรื่องของความแพงของราคาและ P/E ไป แต่จะมองในเรื่องของศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจมากกว่า ว่าธุรกิจนั้นๆจะมีการเติบโตได้อย่างไร

โดยมองว่าหุ้นเด่นในกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหุ้นไทยในปี 65 ได้แก่ หุ้นที่คาดว่ากำไรจะเติบโตได้ในระดับ 150-200% เช่น SABUY และหุ้นที่คาดว่ากำไรจะเติบโตในระดับ 30-40% เช่น BBIK, YGG, IIG และ BE8 เป็นต้น

นอกจากนี้นักลงทุนสถาบันเริ่มมีความสนใจเข้ามาลงทุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น จากที่เมื่อก่อนหุ้นกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่มี Market Cap ขนาดเล็ก ทำให้นักลงทุนสถาบันอาจจะมองข้าม แต่ปัจจุบันกระแสของเทคโนโลยีและดิจิทัลที่มาแรง และเป็นธีมหลักในระดับโลก ทำให้นักลงทุนสถาบันหันมาสนใจเข้ามาเริ่มลงทุนในหุ้นกลุ่มดังกล่าว เพื่อเป็นการลงทุนในธีมที่เกี่ยวข้องกับกระแสของโลก และการเติบโตได้อีกมากของธุรกิจ ซึ่งสามารถเปรียบหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหุ้นไทยเป็นเหมือน “เพชรในตม”

นักวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจ Tech consult ที่จะมีความโดดเด่นค่อนข้างมาก เนื่องจากยังเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีการเติบโตได้ในระดับสูงในช่วง 2-3 ปีนี้ และเป็นกลุ่มธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากโควิด-19 ที่เป็นปัจจัยเร่งภาคธุรกิจเล็งเห็นถึงความสำคัญในการนำเทคโนโลยีและดิจิทัลเข้ามาใช้ ประกอบกับพฤติกรรมของคนในปัจจุบันได้เริ่มเข้าสู่การเป็น Digitalize มากขึ้น

โดยที่แนวโน้มของปริมาณงานที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจต่างๆยังคงมีออกมามากและมีออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นปัจจัยหนุนต่อ Potential upside ให้กับผู้ประกอบการในกลุ่มเทคโนโลยี ในแง่ของ Backlog และผลการดำเนินงาน แต่ในขณะเดียวกันปัจจัยในเรื่องของคนที่จะมาทำงาน ถือเป็นหนึ่งปัจจัยที่ธุรกิจในกลุ่มนี้ให้ความสำคัญค่อนข้างมาก เพราะปัจจุบันคนที่มีความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยียังมีค่อนข้างจำกัด ซึ่งแต่ละธุรกิจจะต้องมีการเตรียมความพร้อมในด้านของคนที่มาทำงานให้เพียงพอกับปริมาณงานที่เข้ามา เพราะคนถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่กำหนด Revenue Capacity ซึ่งจะส่งผลต่อความสามารถในการเติบโตของธุรกิจ

“แม้ว่าอุตสาหกรรมจะเติบโตเร็วแค่ไหน แต่หากไม่สามารถ Secure ตัวของ Capacity ได้เพียงพอ อันนี้จะเป็น Key risk ต่อการเติบโตในอนาคต แต่ก็ยังมองภาพรวมของกลุ่มนี้ยังเป็น Positive views เพราะเป็นกลุ่มธุรกิจที่ยังมีการเติบโตสูง และอิงกับธีม Global” นักวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย กล่าว

ขณะที่ในปัจจุบันนักลงทุนสถาบันเริ่มให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น แม้ว่าในช่วงที่หุ้นในกลุ่มนี้เสนอขาย IPO จะไม่มีนักลงทุนสถาบันเข้ามาจับจองมากก็ตาม และหลังเข้าตลาดหุ้นในกลุ่มนี้บางตัวราคายังนิ่ง แต่ปัจจุบันจากกระแสของ Digital Transformation เป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนสถาบันเริ่มมามองการลงทุนหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีมากขึ้น จะเห็นได้จากแรงซื้อในช่วงที่ผ่านมาหลังจากบริษัทในกลุ่มดังกล่าวเริ่มเดินสายให้ข้อมูลกับนักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะในกลุ่มของ Tech consult ที่มองว่าจะเป็นกลุ่มที่ Outperform มากในปี 65 เช่น BBIK, BE8 และ IIG ที่จะได้รับอานิสงส์จากปริมาณงานที่เข้ามามาก

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหุ้นไทยจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับสูง แต่ยังมองว่าธุรกิจในกลุ่มนี้ยังสามารถเห็นการเติบโตแบบ Inorganic ได้ เพราะเป็นธุรกิจที่มีหนี้สินน้อย หรือเป็น Cash Cow Company และเป็นธุรกิจที่ Asset Light ทำให้มีเงินรองรับการลงทุนใหม่ๆได้มาก เพิ่มความสามารถในการลงทุนต่อยอดธุรกิจ ซึ่งเงินที่มีอยู่จะรอการลงทุนใหม่ในรูปแบบต่างๆ ทั้ง การ่วมทุนกับบริษัทอื่นๆ การจับมมือกับพันธมิตรต่างประเทศเพื่อขยายธุรกิจไปต่างประเทศ เป็นต้น ทำให้เป็นกลุ่มหุ้นที่ยังเห็นการเติบโตได้อีกมากในอนาคต

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ม.ค. 65)

Tags: , , , , , , , , , , ,
Back to Top