กบร.เคาะขยายเวลามาตรการลดค่าใช้จ่ายช่วยสายการบินหลังโอมิครอนระบาดหนัก

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ครั้งที่ 1/2565 วันที่ 13 ม.ค.65 ว่า ที่ประชุม กบร.มีมติเห็นชอบให้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กรมท่าอากาศยาน (ทย.) และ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. ขยายระยะเวลามาตรการบรรเทาผลกระทบของสายการบินต่อไปอีก 1 ไตรมาส นับจากที่ได้ดำเนินการมาจนถึงสิ้นปี 64 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังไม่ดีขึ้นหลังมีสายพันธุ์โอมิครอนระบาดหนักระลอกที่ 5 จนน่าจะส่งผลกระทบต่อจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เคยคาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นกลับไปชะลอตัวลงอีก

และเร่งระดมมาตรการด้านปฏิบัติการให้เกิดประสิทธิภาพและประหยัดน้ำมันเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายสายการบินอีกทาง พร้อมทั้งนำผลการศึกษาแนวทางของประเทศต่าง ๆ มาปรับปรุงมาตรการให้สามารถช่วยพยุงการดำเนินงานของสายการบินได้เต็มที่ทุกรูปแบบ ประกอบด้วย

1. มาตรการด้านการลดค่าใช้จ่ายของสายการบิน ให้ AOT ขยายระยะเวลาปรับลดค่าบริการในการขึ้นลงของอากาศยาน (Landing Charge) และค่าบริการที่เก็บอากาศยาน (Parking Charge) ลงอัตรา 50% ทั้งเที่ยวบินภายในประเทศและเที่ยวบินระหว่างประเทศ สำหรับสายการบินที่ยังทำการบินอยู่ และยกเว้นการจัดเก็บค่าบริการที่เก็บอากาศยาน (Parking Charge) สำหรับสายการบินที่หยุดให้บริการชั่วคราวจนถึงวันที่ 31 มี.ค.65

2. มาตรการทางการเงิน ให้ กพท.ขยายระยะเวลาชำระหนี้ (Credit Terms) ค่าธรรมเนียมการเข้าหรือออกนอกประเทศ จาก 15 วันเป็น 90 วัน จนถึงรอบชำระวันที่ 31 มี.ค.65 ด้าน ทย.ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราค่าเช่าสำหรับทุกกิจกรรมในอัตราค่าเช่า ไม่ต่ำกว่าที่กรมธนารักษ์กำหนดเป็นระยะเวลา 6 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.64-31 มี.ค.65)

ส่วน AOT เลื่อนชำระค่าบริการสนามบิน (Landing and Parking Charges) และค่าเครื่องอำนวยความสะดวก (Aircraft Service Charge) สำหรับงวดชำระเดือน เม.ย.64-ม.ค.65 ออกไปงวดละ 9 เดือน และให้ผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 12 งวดชำระ

นอกจากนั้น ประธาน กบร. ยังมอบนโยบายให้ กพท.ประสานหน่วยงานผู้ให้บริการทั้งภาคพื้นและภาคอากาศ เช่น AOT ทย. และผู้ดำเนินการสนามบินทุกราย รวมทั้งบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ปรับปรุงประสิทธิภาพการให้บริการเพื่อให้แต่ละเที่ยวบินสามารถลดค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงลงให้ได้มากที่สุด ซึ่งจะช่วยให้สายการบินประหยัดค่าใช้จ่ายที่เป็นต้นทุนหลักได้อีกทางหนึ่ง

และให้ กทพ.ประเมินผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เพื่อเตรียมมาตรการรองรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์และช่วยสายการบินให้สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังให้ กพท.มีมาตรการดูแลบุคลากรด่านหน้าทางการบินเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสให้มากที่สุด

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ยังสั่งการให้จัดทำแผนบริหารจัดการกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการ ประมาณการรายจ่าย แหล่งเงินที่ใช้ตลอดระยะเวลาดำเนินการ และประโยชน์ที่จะได้รับตามมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ทั้งนี้ เพราะจะต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่า ต้นทุน และผลประโยชน์ เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐด้วย

สำหรับสถานการณ์อุตสาหกรรมการบินในช่วงไตรมาส 4/64 สถิติจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าเฉลี่ย 6 เท่า โดยจำนวนผู้โดยสารภายในประเทศเพิ่มขึ้นประมาณ 7 เท่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดมีแนวโน้มการติดเชื้อภายในประเทศลดลง ประกอบกับเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวส่งผลให้การเดินทางภายในประเทศเริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ส่วนการเดินทางระหว่างประเทศ มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่าจากไตรมาสก่อนหน้า จากนโยบายการเปิดประเทศของรัฐบาล

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ม.ค. 65)

Tags: , , , , , , , , ,
Back to Top