เกษตรฯ เล็งดึงกลุ่มสหกรณ์ขายสินค้าผ่านออนไลน์เพิ่ม หลังสร้างมูลค่าซื้อขาย 80 ลบ.

นายอัชฌา สุวรรณนิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ (กสส.) เปิดเผยว่า ในปี 65 ตั้งเป้าว่าจะดึงสหกรณ์เข้าร่วมการจำหน่ายสินค้าผ่านแพลตฟอร์ม ThaiTrade.com อีกประมาณ 10 แห่ง ซึ่งจะต้องเป็นสหกรณ์ที่มีความพร้อมในการค้าขายกับต่างประเทศ และตั้งเป้าอบรมสหกรณ์เข้าร่วมค้าผ่านแพลตฟอร์ม Phenixbox.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการค้าในประเทศประมาณ 70 สหกรณ์ โดยจะให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนากระบวนการผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐาน และรักษาคุณภาพของสินค้า รวมถึงระบบการตรวจสอบย้อนกลับ ซึ่งจะช่วยขยายช่องทางในการจำหน่ายสินค้าสหกรณ์ผ่านตลาดออนไลน์เพิ่มขึ้นต่อไป

ในส่วนของสหกรณ์นำร่องจำหน่ายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มกลาง ThaiTrade.com ในปี 64 มีจำนวน 8 แห่ง ประกอบด้วย สหกรณ์การเกษตรปักธงชัย จำกัด สหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด จ.นครราชสีมา สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธกส.สุรินทร์ จำกัด จ.สุรินทร์ สหกรณ์โคเนื้อกำแพงแสน จำกัด จ.นครปฐม สหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด จ.ร้อยเอ็ด สหกรณ์โคนมหนองโพ จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) จ.ราชบุรี สหกรณ์การเกษตรเมืองลับแล จำกัด จ.อุตรดิตถ์ สหกรณ์โคนมมวกเหล็ก จำกัด จ.สระบุรี

ทั้งนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่าผลการเจรจาธุรกิจเกิดมูลค่าการซื้อขายคาดการณ์ 1 ปี ประมาณ 80 ล้านบาท (ข้อมูล 5 ม.ค. 65) จากสหกรณ์ที่เข้าโครงการนำร่องโครงการจำหน่ายสินค้าบนแพลตฟอร์ม 8 แห่ง สินค้าจำนวน 42 รายการ ได้แก่ สินค้ากลุ่มข้าว โคนม และโคเนื้อ

สำหรับสหกรณ์ทั้ง 8 แห่ง ได้เข้าร่วมเจรจาธุรกิจกับผู้นำเข้าจำนวน 22 บริษัท จาก 9 ประเทศคือ ลาว เวียดนาม สิงคโปร์ พม่า ฟิลิปปินส์ จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่นและอินเดีย จากความสำเร็จเบื้องต้นนี้จะเป็นการทำให้สหกรณ์อื่นๆ เห็นช่องทางการขยายโอกาสทางการตลาดได้เพิ่มมากขึ้น สร้างโอกาสการสร้างรายได้เพิ่มให้กับเกษตรที่เป็นสมาชิกสหกรณ์

“เกิดคู่เจรจาการค้า 59 คู่ สินค้าที่ได้รับความสนใจสูงสุด คือ ข้าวหอมมะลิ ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ นมอัดเม็ด สินค้าสหกรณ์ที่เข้าโครงการนำร่อง เป็นสินค้าที่มีมาตรฐานการผลิตที่ดีมีคุณภาพในปี 64 ที่ผ่านมาเมื่อเข้าร่วมโครงการนั้น กรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เปิดเวทีอบรมการค้าบนระบบแพลตฟอร์ม เช่น การทำกิจกรรมการค้าออนไลน์แบบจับคู่ธุรกิจ หลักเกณฑ์การขายสินค้าของบนแพลตฟอร์มเป็นต้นให้กับทั้ง 8 สหกรณ์ เนื่องจากผู้ค้าต้องมีความพร้อมด้านสินค้าสำหรับยอดการเจรจาธุรกิจ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อตอบโจทย์ผู้ซื้อในระบบ”

นายอัชฌา กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือกับภาคเอกชนสนับสนุนช่องทางจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม Phenixbox.com ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสในการขยายตลาดของสถาบันเกษตรกรอีกช่องทางหนึ่ง โดยความร่วมมือในครั้งนี้มี 19 สหกรณ์ให้ความสนใจเข้าร่วม และได้มีการเจรจากับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมในเครือ บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) จำนวน 12 สหกรณ์ เจรจากับผู้ประกอบการ 14 แห่ง มีคู่เจรจารวม 41 คู่ ผลการเจรจา และคาดว่าใน 1 ปีนี้ จะมียอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 3 ล้านบาท (ข้อมูล 5 ม.ค. 65)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ม.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top