หุ้นไทยแนวโน้มเช้าแกว่งไซด์เวย์หลังเห็นสัญญาณต่างชาติกลับมาซื้อแม้ Bond Yield กดดัน

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวไซด์เรย์หรือไซด์เวย์อัพ มองสัญญาณบวกต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทยหนุนดัชนี แม้ยังมีปัจจัย Bond yield สหรัฐฐฯพุ่งกดดัน ประกอบกับปัจจัยหนุนในประเทศของการคุมโควิด-19 ที่เตรียมกลับมาเปิดประเทศด้วยระบบ Test&Go เร็วขึ้น และราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับสูง แต่จับตาประเด็นการเมือง แลtติดตามงบฯกลุ่มแบงก์ ด้านตลาดหุ้นภูมิภาคเคลื่อนไหวบวกและลบ พร้อมให้แนวต้าน 1,680 จุด แนวรับ 1,650 จุด

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าจะแกร่งตัวไซด์เรย์หรือไซด์เวย์อัพ แม้ว่ายังมีปัจจัยกดดันของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯพ(Bond Yield)เพิ่มขึ้นมาแตะ 1.9% กดดันอยู่บ้าง และตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ปรับตัวลง แต่เมื่อวานนี้ยังเห็นต่างชาติกลับมาซื้ออีกครั้ง ซึ่งเป็นสัญญาณบวกให้ดัชนีได้ในวันนี้ ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังมีความผ่อนคลายความกังวลการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนมากขึ้น ทำให้จะมีการพิจารณาเปิดประเทศกลับมาใช้ระบบ Test&Go เร็วขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเปิดเมือง และราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงยังคงหนุนกลุ่มพลังงานต่อ

อย่างไรก็ตามต้องจับตาประเด็นการเมืองในประเทศว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปหลังจากที่กระแสข่าวออกมา พร้อมกับการประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ที่จะเริ่มออกมาในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ ด้านตลาดหุ้นภูมิภาคเปิดเช้านี้เคลื่อนไหวบวกและลบในแต่ละประเทศ พร้อมให้แนวต้าน 1,680 จุด แนวรับ 1,650 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (19 ม.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,028.65 จุด ลดลง 339.82 จุด (-0.96%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 44,532.76 จุด ลดลง 44.35 จุด (-0.97%) และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,340.26 จุด ลดลง 166.64 จุด (-1.15%)

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 65.80 จุด หรือ -0.24% , ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.95 จุด หรือ -0.05% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 135.3 จุด หรือ +0.56%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (19 ม.ค.) 1,658.24 จุด ลดลง 2.03 จุด, -0.12%

– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,128.78 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 ม.ค.65

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (19 ม.ค.) ปิดที่ระดับ 86.96 ดอลลาร์/บาร์เรล  เพิ่มขึ้น 1.53 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. 2557

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (19 ม.ค.) อยู่ที่ 5.33 ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 32.94 แข็งค่าจากวานนี้ จับตาประชุมศบค.วันนี้-สถานการณ์การเมืองในปท.

– กกร.เคาะ “ไก่-เนื้อไก่” เป็นสินค้าควบคุม สั่งผู้เลี้ยง โรงชำแหละ โรงงานอาหารสัตว์ รายงานสต็อก-ต้นทุนทุกเดือน สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ พร้อมให้ตรวจ ยืนยันไม่กักตุน แนะตรวจสต็อกผู้ค้าข้าวโพดชงลดภาษีนำเข้า หนุนลดต้นทุน 1.2 พันล้าน “พาณิชย์” เผยยังไม่พิจารณา 3 ข้อเสนอลดภาษีนำเข้าลดต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ ลุยตรวจสต๊อกสุกร

– “เฟทโก้” เผยสรรพากรรับปากนำข้อมูลผลกระทบการจัดเก็บภาษีขายหุ้น ประกอบพิจารณาอย่างรอบคอบ แจงปัจจุบันตลาดทุนทั่วโลกแข่งขันกัน หากไทยเก็บภาษี นักลงทุนหนีไปต่างประเทศ ด้านเอกชนเสนอเลื่อนเก็บภาษีคริปโท 2-4 ปี เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล

– โควิดเริ่มคลี่คลาย ติดเชื้อทรงตัว ศปก.ศบค.ชง ศบค.เคาะเปิดรับผู้เดินทางผ่าน “เทสต์แอนด์โก” มีผล 1 ก.พ.นี้ เผยไม่ต้องกักตัวแต่ต้องตรวจ โควิด 2 ครั้งใน 5-7 วัน พร้อมลดโซนสีส้ม เหลือ 40 จังหวัด เพิ่มสีเหลืองสูงสุด 27 จังหวัด ร้านอาหารลุ้นนั่งดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน ได้ถึง 23.00 น. ขณะที่ “ผับ-บาร์ คาราโอเกะ” ยังปิดยาว

– ส.อ.ท.ผวาคลื่นลูกใหม่ “ภาวะเศรษฐกิจถดถอย” หลังเงินเฟ้อถล่มทั่วโลก หนุนรัฐเตรียมรับมือราคาน้ำมันดิบโลกจ่อพุ่ง 100 เหรียญ/บาร์เรล แนะลดภาษีฯ แก้กักตุนสินค้า ลั่นสมาชิก 45 กลุ่มพร้อมตรึงราคาแต่แค่ 5-6 เดือนหากต้นทุนพุ่งไม่หยุดจำเป็นต้องขยับ หนุนเร่งคนละครึ่งเฟส4เร็วขึ้นและเพิ่มวงเงินฟื้นแรงซื้อระยะสั้น

– กระทรวงพลังงานเตรียมหารือกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณามาตรการลดภาษีดีเซลรับมือน้ำมันโลกพุ่งเกินคาดการณ์ กดดันกองทุนน้ำมันฯไปต่อไม่ไหวฐานะติดลบแล้วกว่า 8,700 ล้านบาท เหตุต้องควักอุ้มดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ตรึงแอลพีจี 318 บาทต่อถัง

– “อนุทิน” ตอบปม ยส.5 ถอดกัญชาออกจากยาเสพติด เผย ต้องผ่าน คกก.ยาเสพติดพิจารณา แต่ สธ. ดันเต็มที่แล้ว “ศุภชัย” เผย 25 ม.ค. บอร์ด ป.ป.ส.ถก ประกาศ สธ.ถอดกัญชาพ้นยาเสพติด หวังได้คลายล็อก ปลูกรักษาโรค ใช้ในครัวเรือน วอนมองให้กว้างหาทางออกร่วมกัน อย่าล้มโต๊ะ

– มติกรรมการบริหารพรรค-ส.ส.พลังประชารัฐ 78 เสียง ขับ “ธรรมนัส” พร้อม ส.ส. รวม 21 คนพ้นพรรค เหตุสร้างความขัดแย้งและแตกแยก สะพัดเตรียมซบพรรคเศรษฐกิจไทย “ไพบูลย์” ตั้งโต๊ะแถลงวันนี้ หลังจากมีกระแสใช้ 20 ส.ส.ไขก๊อก บีบ “บิ๊กตู่” ยุบสภาฯ และตำแหน่ง รมว.ทส. เหตุฉุน “เสี่ยเฮ้ง” โยนผิดทำแพ้เลือกตั้งซ่อมสงขลา-ชุมพร “ลุงป้อม” เรียกเข้าป่ารอยต่อฯ ต่อรองหาทางขับออก เลี่ยงยุบสภาฯ แต่ไม่เป็นผล หลัง “ส.ส.ก๊วนผู้กอง” แห่ออกจากไลน์กลุ่ม พปชร. ขณะที่ “ธรรมนัส” โพสต์ขอบคุณ ปชช.-สมาชิก ถามไปอยู่พรรคไหนดี

หุ้นเด่นวันนี้

– JWD (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 23 บาท แนวโน้มกำไร Q4/64 ยังสูงแข็งแกร่งต่อตามธุรกิจ Logistic ยังแข็งแกร่ง หนุนกำไรปกติทั้งปี 64 +25% Y-Y ทั้งที่มี Lockdown (กำไรสุทธิ +80% Y-Y) กำไรปี 65 คาด +29% Y-Y อาจมี upside จาก Synergy เต็มปีที่ได้จากการลงทุน 6 ดีลในปีก่อน ไม่ว่าจะเป็น ESCO, Fuze Post (Cold chain express), MyCloudFulfillment, Alpha (จับมือกับ ORI) และมีแผนสร้างห้องเย็นเพิ่ม ขยายบริการสู่ธุรกิจ Health connect (Health care Logistic solution) รวมถึงธุรกิจในต่างประเทศโดยเฉพาะเวียดนามและกัมพูชาฟื้นเร็วหลังโควิด และมีแผน IPO บ.ย่อย (JWD Transport) ราว Q4/65

– SABINA (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 24.90 บาท ปีนี้มีโอกาสฟื้นตามกำลังซื้อของผู้บริโภคผ่านการกระตุ้นจากโครงการภาครัฐ และสถานการณ์ Covid-19 ที่ดีขึ้นทั้งในไทยและต่างประเทศ (โดยเฉพาะเวียดนาม) ตลาดคาด EPS และ Div. Yield ปี 65 ที่ 1.06 บาท/หุ้น และ 4.8% ตามลำดับ ด้าน SABINA เองวางเป้ายอดขายปี 65 ที่ 3.29 พันลบ.ใกล้เคียงระดับสูงสุดปี 62 ทั้ง 3 ช่องทาง คือ 1.ช่องทางการขายแบรนด์ในประเทศ(Retail Business) 2.ช่องทางขายแบบไม่มีหน้าร้าน(Non-Store Retailing;NSR) 3.ช่องทางการรับผลิต (OEM) จะเติบโตได้ราว 20%, 20%, และ 10% ตามลำดับ

– NSL (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 21.50 บาท) แนวโน้มกำไรปี 65 โต รับสินค้าใหม่ Margin สูง, ตั้งเป้ารายได้โต 28% เพิ่มสัดส่วนยอดขายสินค้า Ready to eat (Margin สูง) ในทุกช่องทางพร้อมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ราว 3-4 SKU/เดือน คาดรายได้จะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญนับตั้งแต่ Q2/65 เป้ารายได้ปี 65 โต 28% มีความเป็นไปได้ จากด้วยยอดขายในไทยและกัมพูชาที่เติบโต, พร้อมลงทุน R&D และเริ่มเดินเครื่องจักรใหม่ Q1/65 เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

– RICHY-W3 เริ่มเทรดวันแรก 20 ม.ค.65 จำนวนหน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน 247,690,926 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ ใบสำคัญแสดงสิทธิ:หุ้นสามัญใหม่ 1 : 1 ราคาการใช้สิทธิ 1.30 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (17 มกราคม 2565) วันใช้สิทธิครั้งแรก 15 มี.ค. 2565 วันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 6 ม.ค. 2566

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ม.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top