เงินบาทเปิด 32.23/25 แข็งค่าสุดในรอบ 7 เดือน รับเม็ดเงินไหลเข้าต่อเนื่อง

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.23/25 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเย็นวันอังคารที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.35 บาท/ดอลลาร์ และเป็นการแข็งค่าสุดในรอบ 7 เดือน

เช้านี้เงินบาทยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง จากปัจจัยที่ยังมี flow เข้ามาทุกวันทั้งฝั่งตลาดหุ้น และตลาดพันธบัตรของไทย รวมทั้งจากที่เมื่อคืนนี้ มีการเปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ ทำให้ตลาดมองว่าเฟดคงไม่น่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในรอบเดือนมี.ค.มากไปกว่าอัตราที่ตลาดคาดการณ์ไว้

“บาทเช้านี้ เปิดมาแข็งค่าสุดในรอบ 7 เดือน เพราะยังมี flow เข้ามาบ้านเราต่อเนื่องทุกวัน และเมื่อคืนนี้เฟดเปิดเผยรายงานการประชุม ที่ดูแล้วจะไม่ได้ขึ้นดอกเบี้ยมากไปกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ดูจากโทนแล้ว ไม่ได้ aggressive” นักบริหารเงินระบุ

ปัจจัยที่ต้องติดตามคืนนี้ คือ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ รวมทั้งสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ยังคงไม่สามารถวางใจได้

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทยังมีทิศทางแข็งค่าต่อ มองกรอบไว้ที่ 32.10 – 32.35 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (15 ก.พ.) อยู่ที่ระดับ 0.41637% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.50667%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 115.51/53 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันอังคารที่ระดับ 115.61 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1372/1376 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันอังคารที่ระดับ 1.1338 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.343 บาท/ดอลลาร์
  • “โบรกเกอร์” ประสานเสียงฟันด์โฟลว์ไหลเข้าตลาดหุ้นไทย บล.กสิกรไทยลุ้นครึ่งปีแรกแตะแสนล้าน ล่าสุดซื้อแล้ว 6.45 หมื่นล้าน
  • รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ได้ประชุมคณะอนุกรรมการบริหารความเสี่ยงหนี้สาธารณะ ครั้งที่ 1/65 โดยได้พิจารณาคงกลยุทธ์การกู้เงิน ให้มีการกระจายเครื่องมือการกู้เงินและยืดอายุเครื่องมือในการระดมทุน เพื่อรองรับการกู้เงินที่เพิ่มขึ้นจากการดำเนินมาตรการการคลังในอนาคต รวมถึงรองรับความผันผวนและผลกระทบ จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ที่กำลังเข้าสู่ช่วงขาขึ้น
  • อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยถึงแนวทางการจัดเก็บภาษีหุ้นว่า ขณะนี้กรมสรรพากรอยู่ระหว่างการเร่งศึกษาการจัดเก็บภาษีจากการขายหุ้น ซึ่งมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เสนอข้อมูลมายังกรมฯ ให้พิจารณา แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะจัดเก็บเมื่อใด และอัตราเท่าไร โดยเรื่องนี้ต้องขอศึกษาข้อมูลให้รอบคอบมากที่สุด แล้วต้องเสนอให้กระทรวงการคลัง พิจารณาตามขั้นตอนด้วย
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 5.5% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2535 หลังจากดีดตัวขึ้น 5.4% ในเดือนธ.ค.
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 25-26 ม.ค. โดยระบุว่า แม้กรรมการเฟดส่วนใหญ่เห็นพ้องว่าควรมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ เมื่อพิจารณาจากความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ, ตลาดแรงงาน และการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ แต่การพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยนั้น จะขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ข้อมูลด้านเงินเฟ้อและข้อมูลด้านอื่น ๆ และเฟดจะกลับมาประเมินไทม์ไลน์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมแต่ละครั้ง
  • นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่า รายงานการประชุมเดือนม.ค.บ่งชี้ว่าเฟดอาจจะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วและรุนแรงไปกว่าที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้แล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ได้แสดงจุดยืนแข็งกร้าวด้วยการสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงถึง 1% ภายในเดือนก.ค.
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 3.8% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.1% หลังจากดิ่งลง 2.5% ในเดือนธ.ค. โดยยอดค้าปลีกเดือนม.ค.ได้รับแรงหนุนจากการการเพิ่มขึ้นของยอดซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งทะยานขึ้น 14.5%
  • สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลง 1 จุด สู่ระดับ 82 ในเดือน ก.พ. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 โดยดัชนีร่วงลงเนื่องจากปัญหาห่วงโซ่อุปทาน สต็อกบ้านในระดับต่ำ การพุ่งขึ้นของราคาบ้าน และต้นทุนในการก่อสร้าง
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.4% ในเดือนม.ค. หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนธ.ค. โดยตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมเป็นการวัดการปรับตัวของภาคโรงงาน, เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (16 ก.พ.) หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า เฟดอาจจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรงไปกว่าที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้แล้ว
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือนในวันพุธ (16 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ยืนยันว่า รัสเซียยังคงเสริมกำลังทหารตามชายแดนยูเครน
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, การเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนม.ค., ดัชนีการผลิตเดือนก.พ.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนม.ค. จาก Conference Board

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ก.พ. 65)

Tags: , ,
Back to Top