ฝ่ายค้าน แนะนายกฯ ดูข้อมูลรอบด้านเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างแท้จริง

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ข้อมูลที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม นำมาชี้แจงน่าจะมาจากหน่วยงานราชการหรือคนใกล้ชิดที่มีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน จนทำให้ไม่เห็นว่ามีปัญหาเกิดขึ้น เพราะคณะรัฐมนตรีต้องแสดงออกถึงความสุจริต โดยต้องพิจารณาทั้งสิ่งที่ควรทำ สิ่งไม่ควรทำ สิ่งที่ต้องทำ และสิ่งที่ไม่ต้องทำ

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ปัญหาที่ดินเป็นเรื่องที่เรื้อรังมานาน และทวีความรุนแรงมากขึ้น เพราะมีการดำเนินงานที่ไปกระทบต่อสิทธิ์ของประชาชนจนทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ โดยจะเห็นว่าจากจำนวนที่ดินทั่วประเทศ 320.70 ล้านไร่ เป็นของภาครัฐ 137 ล้านไร่ คิดเป็น 60.08% ส่วนอีก 128 ล้านไร่ หรือคิดเป็น 39.92% เป็นของประชาชน แต่หากนำแนวเขตที่ดินของรัฐมารวมกันแล้วจะมีจำนวน 458.5 ล้านไร่ สูงกว่าจำนวนที่ดินทั่วประเทศที่มีอยู่จริง ซึ่งเกิดจากความผิดพลาดของหน่วยงานของรัฐ และนายกรัฐมนตรีเคยประกาศว่าจะทำ One Map ให้เสร็จภายใน 1 ปี แต่วันนี้ยังไม่มีความคืบหน้า

ขณะที่การกระจายการถือครองโฉนดที่ดินในปัจจุบัน 19,644,687 ฉบับ แบ่งเป็นขนาดที่ดินไม่เกิน 5 ไร่ 74.94%, ขนาดที่ดิน 5-10 ไร่ 14.10%, ขนาดที่ดิน 10-50 ไร่ 10.73% และขนาดที่ดินเกิน 50 ไร่ 0.23% โดยมีเกษตรกรไม่มีที่ดินทำกินอยู่ 30 ล้านราย

“หน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจในการเพิ่มที่ดินให้เอกชนคือ กรมที่ดิน แต่หากต้องการเพิ่มที่ดินของรัฐ ก็ใช้การประกาศแนวป่าแนวเขตทับที่เอกชน”

พ.ต.อ.ทวี กล่าว

นอกจากนี้ยังมีกรณีอื่นๆ ที่มีปัญหา เช่น กรณีที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่ตรวจสอบพบว่าถือครองอยู่ 497 แปลง ขณะที่กรมที่ดินระบุว่าถือครองอยู่ 850 แปลง ซึ่งมีความแตกต่างกันมาก และยังมีความไม่ชอบมาพากลกรณีฟ้องผู้บุกรุกที่ดินเขากระโดง, กรณีการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติ มีปัญหาทับที่ประชาชน 4.7 ล้านไร่, กรณีการดำเนินงานตามนโยบายทวงคืนผืนป่า แต่ในช่วง 3 ปี มีพื้นที่ป่าหายไป 275,868 ไร่, กรณีโครงการ EEC มีการเก็งกำไร, กรณีใช้คำสั่ง คสช.ปิดเหมืองทองอัครา ทำให้ถูกฟ้องร้อง แต่วันนี้ได้ต่ออายุสัมปทานให้บริษัทฯ กลับมาดำเนินการอีกครั้ง โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชน, กรณีสำนักงานที่ดินแห่งชาติ ทำให้เกิดปัญหารัฐซ้อนรัฐแทนที่จะมีการกระจายอำนาจ เหมือนกรณีตั้งศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ซึ่งไม่เข้าใจว่ารัฐบาลทำอย่างไรจึงทำให้จังหวัดชายแดนภาคใต้ยากจนที่สุดในประเทศ

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การแก้ปัญหาหนี้สินนั้น มีความผิดพลาดจนทำให้ผู้ประกอบการ SMEs ไม่สามารถขอกู้ได้ เพราะสถาบันการเงินส่วนใหญ่จะนำเงินฝากของประชาชนที่ให้ดอกเบี้ยแค่ 0.25% มาซื้อพันธบัตร เพราะถือว่าให้รัฐบาลกู้ได้ดอกเบี้ยสูง และมีความมั่นคงมากกว่า

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ก.พ. 65)

Tags: , , ,
Back to Top