ยอดขายชิปทั่วโลกทะลุ 5 แสนล้านดอลล์เป็นครั้งแรกในปี 2564

สมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ (SIA) เปิดเผยว่า ยอดขายเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกพุ่งทะลุเกิน 5 แสนล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกในปี 2564 หลังจากที่กลุ่มผู้ผลิตชิปเร่งการผลิตเพื่อคอบสนองต่อการขาดแคลนชิปทั่วโลกที่เกิดขึ้นจากการที่เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

รายงานระบุว่า ยอดขายชิปทั่วโลกในปี 2564 เพิ่มขึ้น 26.2% แตะที่ 5.559 แสนล้านดอลลาร์ มากเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มจากระดับ 4.404 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2563 ขณะที่อุตสาหกรรมเชมิคอนดักเตอร์มีการส่งออกชิปมากเป็นประวัติการณ์ที่ 1.15 ล้านล้านชิ้น

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า คาดว่าความต้องการชิปจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสำหรับใช้งานในยานยนต์ เครื่องเกมคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เครือข่ายและมือถือ รวมถึงผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคและอุตสาหกรรมอื่น ๆ

เมื่อคิดแยกตามภูมิภาค ยอดขายชิปในจีนซึ่งเป็นตลาดชิปที่ใหญ่ที่สุดของโลกพุ่งขึ้น 27.1% และยอดขายในตลาดทวีปอเมริกาปรับตัวขึ้นมากที่สุดที่ 27.4%

ทวีปยุโรปและญี่ปุ่นมียอดขายชิปเพิ่มขึ้น 27.3% และ 19.8% ตามลำดับ ขณะที่ตลาดเอเชียแปซิฟิกและตลาดอื่น ๆ มียอดขายชิปเพิ่มขึ้น 25.9%

นายแพท เกลซินเกอร์ ซีอีโอของอินเทล คอร์ปเคยกล่าวไว้เมื่อปลายปี 2564 ว่าการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์จะคงอยู่ไปถึงปี 2566

นอกจากนี้ บริษัทอินเทลยังมีแผนลงทุนในมาเลเซียมูลค่า 3 หมื่นล้านริงกิต (7.2 พันล้านดอลลาร์) ในช่วง 10 ปีข้างหน้าเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตชิป

ด้านผู้ผลิตชิปรายอื่น ๆ ก็ได้เร่งเพิ่มกำลังการผลิตเพิ่มตอบสนองต่อความต้องการชิปเช่นกัน โดยทางบริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ เมนูแฟคเจอริง คอมพานี (TSMC) ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก มีแผนลงทุนในญี่ปุ่นมูลค่า 8.6 พันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างโรงงานผลิตชิปในจังหวัดคุมาโมโตะภายใต้ความร่วมมือกับโซนี่ เซมิคอนดักเตอร์ โซลูชัน คอร์ป และบริษัทเดนโซ คอร์ป ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.พ. 65)

Tags: , ,
Back to Top