III เปิดบริการส่งสินค้าทางรางไทย-ลาว-จีน Q2/65,ส่ง ANI เข้าตลาดหุ้น Q4/65

นายวิรัช นอบน้อมธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการเงิน บมจ.ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (III) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดให้บริการขนส่งทางราง (Rail Freight) ในเส้นทางไทย-ลาว-จีน ภายในช่วงไตรมาส 2/65 หลังจากมีการเปิดให้บริการรถไฟสายจีน-.ลาวไปเมื่อเดือน ธ.ค.64 ซึ่งช่วยลดระยะเวลาการขนส่งสินค้าลงค่อนข้างมาก และปัจจุบันการขนความต้องการการขนส่งสินค้าจากไทยไปยังจีน และจากจีนมายังไทยมีจำนวนมาก

ปัจจุบันบริษัทได้เจรจากับพันธมิตรทั้งในจีนและลาวไว้แล้วพอสมควร ซึ่งอยู่ระหว่างการพูดคุยเกี่ยวกับแผนการลงทุนในส่วนของตู้คอนเทนเนอร์ที่ใช้สำหรับการขนส่งสินค้า และรูปแบบการร่วมลงทุน

ทั้งนี้ บริษัทวางงบลงทุนราว 500 ล้านบาทเพื่อใช้ในการเข้าร่วมลงทุนเพื่อที่จะขยายการลงทุนต่อเนื่องทั้งในกลุ่มธุรกิจการขนส่งทางราง ธุรกิจการขนส่งทางเรือ (Sea Freight) และธุรกิจโลจิสติกส์สำหรับสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์ (Chemical) ทั้งในรูปแบบของการเข้าซื้อกิจการ (M&A) และการเข้าร่วมลงทุน คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในช่วงครึ่งปีหลังปี 65

นอกจากนี้บริษัทฯยังได้เตรียมขยายพื้นที่คลังสำหรับสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์อีก 2,000-3,000 ตารางเมตร จากปัจจุบันที่มีการใช้พื้นที่เต็มทั้งหมดแล้วกว่า 25,000 ตารางเมตร และยังคงมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง หลังจากมีข่าวเกี่ยวกับการรั่วไหลของน้ำมันในจังหวัดระยองทำให้ผู้ประกอบการตื่นตัวและหันมาให้ความสำคัญกับการเก็บสินค้าดังกล่าวมากขึ้น

Freight train with cargo containers passing by

สำหรับบริษัทย่อย บริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ANI) คาดว่าจะสามารถนำเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ภายในไตรมาส 4/65 เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาสู่การเป็นผู้นำด้านการให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรในภูมิภาค (Regional Logistics Player) โดยเป็นตัวแทนสายการบินต่างๆกว่า 20 สายการบิน และมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศไทย และมีสำนักงานครอบคลุม ฮ่องกง สิงคโปร์ เวียดนาม พม่า และกัมพูชา ซึ่งเป็นฐานการผลิตและการกระจายสินค้าในระดับนานาชาติ

นายวิรัช กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตของรายได้ปี 65 ไว้ที่ไม่ต่ำกว่า 30% จากปีก่อน 3,012.94 ล้านบาท โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์ GDP ของประเทศไทยปีนี้ที่ 3.4% และคาดว่าการส่งออกของไทยจะมีการขยายตัว 3.0-4.0% ซึ่งในธุรกิจขนส่งทางอากาศ (Air Freight) ธุรกิจขนส่งทางเรือ (Sea Freight) ธุรกิจโลจิสติกส์สำหรับสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์ (Chemical) ยังมีความต้องการการขนส่งที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และค่าขนส่งยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงด้วย

“ความต้องการการขนส่งยังคงมีสูงมากในปัจจุบัน และค่าขนส่งเองก็ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงด้วย โดยเฉพาะในส่วนของการขนส่งทางอากาศที่เป็นสัดส่วนรายได้หลักมากกว่า 50% จะเห็นการเติบโตมากขึ้นหลังจากสายการบินต่างๆเริ่มกลับมาให้บริการการบิน นอกจากนี้เรายังเพิ่มบริการขนส่งเพิ่มเติม เราจึงมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายแน่นอน”

นายวิรัช กล่าว

ทั้งนี้ยังมองถึงการเกาะติดโอกาสด้านธุรกิจการให้บริการโลจิสติกส์ สำหรับลูกค้ากลุ่มอี-คอมเมิร์ซ โซเชียลคอมเมิร์ซ และ Domestic Delivery ที่มีการขยายตัว โดยที่ผ่านมาบริษัท ได้ร่วมมือกับ บมจ. สบาย เทคโนโลยี พัฒนาธุรกิจให้ ShipSmile และจับมือกับพันธมิตรผู้ให้บริการ Delivery ทุกค่าย และยังมีการเพิ่มบริการอื่นๆ เป็นให้เป็นศูนย์รวมระบบแฟรนไชส์ ทั้งจุดรับส่งพัสดุ และบริการรูปแบบเคาน์เตอร์เซอร์วิสอื่นๆ ปัจจุบันมีจำนวนสาขาประมาณ 5,000 สาขา และตั้งเป้าหมายครบ 9,000 สาขาในปีนี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.พ. 65)

Tags: , , , , ,
Back to Top