ศบค.ขอผู้ป่วยโควิดสีเขียวรักษาตัวระบบ HI/เตรียมรับคนไทยในยูเครนกลับแบบ Test&Go

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) กล่าวว่า สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในขณะนี้ เตียงรักษาพยาบาลยังมีเพียงพอ โรงพยาบาลสามารถรองรับผู้ป่วยสีเขียวไปแอดมิทดูอาการได้ แต่ปัจจุบันตัวเลขติดเชื้อสูงขึ้นต้องขอความร่วมมือสงวนเตียงให้ผู้ป่วยสีเหลืองสีแดง ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ หรือรับประทานยากดภูมิคุ้มกัน ซึ่งกลุ่มเหล่านี้แม้มีอาการน้อย แต่อาจทำให้โรคหลักทรุดรวดเร็ว โรงพยาบาลจึงจะพิจารณารับไว้รักษาในโรงพยาบาล

จากตัวเลขผู้ป่วยเข้ารับการรักษาใน รพ. 83,479 ราย ซึ่งกลุ่มนี้มีอาการเพียงเล็กน้อย ไม่พบปัจจัยเสี่ยง หรือกลุ่มสีเขียวมากถึง 82,499 ราย คิดเป็น 98% สะท้อนให้เห็นว่าการติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นสอดคล้องกับที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุว่า สายพันธุ์ในไทยตอนนี้เป็นโอมิครอน 90% ขึ้นไป และส่วนใหญ่มีอาการระดับสีเขียว ทางกระทรวงสาธารณสุขขอเน้นย้ำประชาชนที่อาการเล็กน้อย ไม่มีอาการเลย หรือไม่มีโรคประจำตัว ขอให้เลือกเข้ารักษาในระบบ Home Isolation (HI) เพื่อสงวนเตียงสีเหลืองสีแดงให้ผู้ที่จำเป็นจริงๆ

พญ.อภิสมัย กล่าวถึงกรณีมีข่าวนักวิชาการคาดการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มจาก 3 หมื่นเป็น 4-6 หมื่นรายต่อวัน อาจทำให้ประชาชนไม่สบายใจ ซึ่งเรื่องนี้ทางกระทรวงสาธารณสุข และศบค.มีการติดตามทั้งสถานการณ์โลก สถานการณ์ประเทศเพื่อนบ้าน และสถานการณ์ในประเทศอย่างใกล้ชิด และจะมีการเสนอแผนเผชิญสถานการณ์เสมอ

“สิ่งสำคัญอยากให้นักวิชาการ อาจารย์ที่ให้ความเห็น ในแผนเผชิญสถานการณ์ เช่น ที่เราจะช่วยกันประคับประคองตัวเลขไม่ให้สูงเกินศักยภาพระบบสาธารณสุข ทุกภาคส่วนมีบทบาทอย่างไร ประชาชนหรือ สถานประกอบและผู้ประกอบการจะช่วยกันอย่างไร แทนที่จะพูดแค่ตัวเลขให้ประชาชนจนทำให้ประชาชนเป็นห่วง แต่ควรมาช่วยกันร่วมมือทำให้ประเทศผ่านพ้นช่วงนี้ไป”

พญ.อภิสมัย กล่าวถึง มาตรการป้องกันควบคุมโรค ซึ่งมีการเตือนภัยโควิด-19 ระดับ 4 ในทุกจังหวัด โดยขอให้งดเข้าสถานที่เสี่ยง สถานบันเทิงที่เปิดรูปแบบร้านอาหาร แต่พบว่า บางสถานที่เปิดสถานบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบ จนเกิดคลัสเตอร์ต่อเนื่อง จึงขอความร่วมมือประชาชนเลี่ยงเข้าพื้นที่เหล่านี้ รวมถึงมีการรวมกลุ่มทำกิจกรรมร่วมกัน วงเหล้า และการเดินทางขอให้ชะลอในช่วงนี้ ซึ่งมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขและศบค.กำหนด เป็นการผ่อนคลายเพื่อให้เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการดำเนินชีวิตยังไปต่อได้ เป็นทิศทางเดียวกับองค์การอนามัยโลกและประเทศอื่นๆ ยอมรับ

“เราจำเป็นต้องเปิดประเทศในภาวะที่ยอมรับความเสี่ยง แต่ไม่ได้หมายความว่าโควิด-19 จบลงแล้ว การที่ประชาชนจะต้องค้าขาย เดินทางไปมาหาสู่ ทำกิจกรรมต่างๆยังมีความจำเป็น เราไม่สามารถล็อกดาวน์ได้อีกต่อไป แต่จะต้องปรับตัวเข้ากับวิถีใหม่ สามารถอยู่กับโรคอย่างปลอดภัย”พญ.อภิสมัย กล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างการเตรียมแผนรับมือบริหารแนวทางกำหนดให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นระยะต่อไป ซึ่งสัปดาห์ที่แล้วปลัด สธ.เสนอ ศบค.ไว้ก่อนแล้ว ไม่ว่าจะเป็น การรักษาทางเลือกแบบผู้ป่วยนอกอย่างใกล้ชิด ร่วมกับประชาชนมีมาตรการส่วนบุคคล รวมทั้งมีการให้ยาตามกลุ่มอาการ มีการติดตามการรักษาภายใน 2 วัน

นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศยูเครน ซึ่งพบว่า มีคนไทยที่ต้องการเดินทางกลับบ้านประมาณ 250-260 คน โดยได้มีการหารือในที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศปก.ศบค.) และจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด โดยจะเสนอนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณารายละเอียดเรื่องการเดินทางเข้าประเทศแบบ Test&Go การเฝ้าระวังควบคุมโรคติดต่อ เพื่อช่วยเหลือให้คนไทยได้กลับบ้าน

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.พ. 65)

Tags: , , , , ,
Back to Top