จับตาครม.ถกมาตรการรับมือน้ำมันแพง-ลดค่าไฟ/เคาะเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.-พัทยา

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน โดยคาดว่าที่ประชุม ครม.จะมีการหารือถึงมาตรการรองรับผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ทั้งในส่วนของการส่งออกสินค้า และการนำเข้าพลังงาน

ทั้งนี้ ต้องจับตาข้อเสนอของกระทรวงพลังงาน ในการเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาปรับลดค่าไฟฟ้าให้ประชาชนเป็นการทั่วไป เพื่อบรรเทาภาวะความเดือดร้อนจากปัญหาราคาน้ำมันที่สูงขึ้นในขณะนี้

สำหรับวาระที่น่าสนใจ ได้แก่

– กระทรวงมหาดไทย เสนอขอความเห็นชอบให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นของกรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา ซึ่งคาดว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้งพร้อมกันในวันที่ 29 พ.ค.นี้

– กระทรวงสาธารณสุข เสนอขอความเห็นชอบแนวทางเกณฑ์การรักษาผู้ป่วยโรคติดต่อกรณีโรคโควิด-19 เพื่อเป็นแนวทางในการบริหารจัดการผู้ป่วยวิกฤตฉุกเฉินรูปแบบระบบ UCEP Covid Plus เตรียมรองรับผู้ติดเชื้อในอาการโควิดสีเหลือง และสีแดง ที่สามารถใช้สิทธิรักษาได้ทุกที่ และให้โรงพยาบาลที่ดูแลเบิกจ่ายได้เร็วขึ้น รวมทั้งจะเสนอเรื่องการเข้าร่วมเป็นภาคีของไทยในสถาบันวัคซีนนานาชาติ หรือ IVI ด้วย

– กระทรวงพลังงาน เสนอขอความเห็นชอบการกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินในปี 2565-2567 ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)

– กระทรวงศึกษาธิการ เสนอขอความเห็นชอบโครงการอาชีวะ ฝีมือพัฒนากำลังคนชายแดนใต้

– กระทรวงอุตสาหกรรม เสนอขอขยายระยะเวลาโครงการสนับสนุนผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมุ่งสู่อุตสาหกรรมสีเขียว โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ (Greening Industry Through Low Carbon Technology Application for SMEs)

– กระทรวงศึกษาธิการ เสนอโครงการอาชีวะฝีมือชน พัฒนากำลังคนชายแดนใต้

– กระทรวงแรงงาน เสนอความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีต่อร่างปฏิญญาร่วมของการประชุมระดับรัฐมนตรี Abu Dhabi Dialogue ครั้งที่ 6

– การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เสนอ 4 มาตรการ เพื่อดูแลนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียและชาวยูเครนที่ติดค้างในประเทศไทยประมาณ 7,000 คน

– สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.) เสนอการปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการของกรมศุลกากร

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 มี.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top