ผลสำรวจชี้วิกฤตรัสเซีย-ยูเครนส่งผลกระทบต่ออิทธิพลของพาสปอร์ต

ผลการจัดอันดับดัชนีพาสปอร์ตของเฮนลี่ย์ (Henley Passport Index) โดยบริษัท เฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส ซึ่งเป็นการจัดอันดับหนังสือเดินทางทั่วโลกตามจำนวนจุดหมายปลายทางที่ผู้ถือหนังสือเดินทางนั้นเดินทางไปได้โดยไม่ต้องขอวีซ่ามาก่อน แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงผลกระทบของสงครามที่มีต่ออิสระในการเดินทาง

การที่รัสเซียบุกยูเครนส่งผลให้เกิดวิกฤตผู้ลี้ภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ชาวยูเครนกว่า 4 ล้านคนต้องอพยพไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยสหภาพยุโรปได้อนุมัติแผนฉุกเฉินเพื่ออนุญาตให้ชาวยูเครนพักอาศัยและทำงานใน 27 ประเทศสมาชิกเป็นเวลานานสูงสุด 3 ปี ขณะที่ประเทศอื่นในยุโรปได้ยกเว้นวีซ่าหรือปรับเปลี่ยนนโยบายวีซ่าเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อผู้ถือพาสปอร์ตยูเครน ในทางตรงกันข้าม สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา แคนาดา และประเทศตะวันตกอีกหลายประเทศ ได้ปิดน่านฟ้าห้ามเที่ยวบินจากรัสเซียผ่าน แบนการเดินทางของพลเมืองรัสเซียรายบุคคล และหยุดออกวีซ่า ซึ่งส่งผลให้พาสปอร์ตของรัสเซียอยู่ในสถานะย่ำแย่ในประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศ

ข้อมูลล่าสุดจากดัชนีพาสปอร์ตของเฮนลี่ย์ ซึ่งอ้างอิงข้อมูลจากสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ระบุว่า ปัจจุบัน ยูเครนมีคะแนนการเดินทางแบบไม่ต้องขอวีซ่า (visa-free) หรือขอรับการตรวจลงตราที่ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (visa-on-arrival) อยู่ที่ 143 ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และรั้งอันดับ 34 ในดัชนีดังกล่าว ขณะที่รัสเซียมีคะแนนอยู่ที่ 117 และรั้งอันดับ 49 ซึ่งระยะห่างนี้มีแนวโน้มกว้างขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

สำหรับประเทศอื่น ๆ นั้น ญี่ปุ่นและสิงคโปร์ยังคงครองอันดับ 1 ร่วมกัน โดยผู้ถือพาสปอร์ตสามารถเดินทางแบบไม่ต้องขอวีซ่าเข้าประเทศและดินแดนต่าง ๆ ได้ 192 แห่งทั่วโลก ไม่นับรวมข้อจำกัดชั่วคราวจากสถานการณ์โควิด ส่วนเยอรมนีและเกาหลีใต้ครองอันดับ 2 ร่วมกัน โดยผู้ถือพาสปอร์ตสามารถเดินทางได้ 190 แห่ง ขณะที่ฟินแลนด์ อิตาลี ลักเซมเบิร์ก และสเปน ครองอันดับ 3 ร่วมกัน โดยผู้ถือพาสปอร์ตสามารถเดินทางได้ 189 แห่ง

ด้านสหราชอาณาจักร ซึ่งยกเลิกข้อจำกัดเกี่ยวกับโควิดทั้งหมดเมื่อไม่นานมานี้ รั้งอันดับ 5 ด้วยคะแนน 187 และสหรัฐอเมริกาตามมาเป็นอันดับ 6 ด้วยคะแนน 186 ส่วนอัฟกานิสถานยังรั้งท้ายเช่นเคย โดยผู้ถือพาสปอร์ตสามารถเดินทางแบบไม่ต้องขอวีซ่าเข้าประเทศและดินแดนต่าง ๆ ได้เพียง 26 แห่งเท่านั้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 เม.ย. 65)

Tags: , , ,
Back to Top