หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ ชะลอลงทุนก่อนวันหยุดยาวสงกรานต์

นักวิเคราะห์ฯมอง SET วันนี้แกว่งไซด์เวย์-วอลุ่มไม่คึกคักใกล้ช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์คาดนักลงทุนชะลอการลงทุน และอาจมีแรงขายลดความเสี่ยง ปัจจัยติดตามวันนี้เป็นการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของจีนเดือน มี.ค.65 ส่วนพรุ่งนี้จะมีตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯเดือนมี.ค.65 ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งบวกและลบ โดยให้แนวต้าน 1,690-1,700 จุด แนวรับ 1,660-1,670 จุด

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันนี้คาดว่าแกว่งตัวไซด์เวย์ และการซื้อขายจะไม่คึกคักมากนัก เพราะเข้าใกล้ช่วงเทศกาลวันหยุดสงกรานต์ ซึ่งตลาดหุ้นไทยจะเปิดทำการในวันนี้และวันพรุ่งนี้ก่อนหยุดยาว ทำให้นักลงทุนจะยังชะลอการลงทุนในช่วงนี้ไปก่อน และอาจมีแรงขายเพื่อลดความเสี่ยงออกมากดดันดัชนีได้บ้าง

ปีจจัยติดตามในวันนี้จะมีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของจีนเดือนมี.ค.65 ส่วนคืนวันพรุ่งนี้จะมีตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เดือนมี.ค. 65 ซึ่งหากเร่งตัวสูงขึ้นจะส่งผลถึงการพิจารณาการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่เข้มงวดมากขึ้น ส่วนตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้บางประเทศปรับตัวลดลงและบางประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น

พร้อมให้แนวต้าน 1,690 และ 1,700 จุด แนวรับ 1,660 และ 1,670 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (8 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,721.12 จุด เพิ่มขึ้น 137.55 จุด หรือ +0.40%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,488.28 จุด ลดลง 11.93 จุด หรือ -0.27% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,711.00 จุด ลดลง 186.30 จุด หรือ -1.34%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,877.60 จุด ลดลง 108.2 จุด หรือ -0.4%, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,239.86 จุด ลดลง 11.99 จุด ส่วนดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,688.03 จุด ลดลง 183.98 จุด หรือ -0.84%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (8 เม.ย.) ที่ระดับ 1,686.00 จุด เพิ่มขึ้น 3.59 จุด, +0.21%

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 332.99 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 เม.ย.65

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. (8 เม.ย.) พุ่งขึ้น 2.23 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 98.26 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ยังคงลดลง 1% ในรอบสัปดาห์นี้

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (8 เม.ย.) อยู่ที่ 17.89 ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 33.59 ธุรกรรมเบาบางก่อนหยุดยาว ไร้ปัจจัยใหม่ คาดกรอบ 33.50-33.70

– นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้างในประเทศปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มขึ้นในทุกหมวดสินค้า เห็นได้จากดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือน มี.ค.65 อยู่ที่ 119.7 สูงขึ้น 8.6% เทียบกับเดือน มี.ค.64 สูงสุดในรอบ 4 เดือนนับจากเดือน พ.ย.64 ที่สูงขึ้น 10.4% ส่วนเมื่อเทียบเดือน ก.พ.65 สูงขึ้น 2.2% และเฉลี่ย 3 เดือน (ม.ค.-มี.ค.) ปี 65 สูงขึ้น 7.2% เทียบช่วงเดียวกันปี 64

– นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้รับหลักการการผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าไทยจากต่างประเทศเพื่อลดข้อจำกัดในการเดินทาง โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหารือรายละเอียด พร้อมกับดูสถานการณ์การติดเชื้อช่วงหลังสงกรานต์ แล้วกลับมาพิจารณากันอีกครั้งในการประชุม ศบค.วันที่ 22 เม.ย.นี้ ใน 4 ประเด็น คือ 1.ยกเลิกระบบไทยแลนด์พาส 2.ยกเลิกการตรวจหาเชื้อโควิดในวันที่เดินทางมาถึง ที่ปัจจุบันกำหนดให้ตรวจด้วยวิธี RT-PCR โดยอาจยกเลิกไปเลยหรือเปลี่ยนเป็น ATK 3.ปรับเปลี่ยนมาตรการกักตัวของผู้สัมผัสเสี่ยงสูงใหม่ 4.พิจารณายกเลิกการกำหนดให้ต้องซื้อประกันการเดินทาง โดยให้เริ่มต้นในวันที่ 1 พ.ค. หรือวันที่ 1 มิ.ย.นี้เป็นต้นไป

– พิษโควิด 2 ปีกดดันแผนลงทุนรัฐ บอร์ด PPP ไฟเขียวเตรียมเปิดประมูลครั้งใหญ่ใน 5 ปีดึงเอกชนร่วมลงทุนสูตรเร่งด่วน PPP บิ๊กโปรเจ็กต์ 110 โครงการ มูลค่า 1.12 ล้านล้านบาท เผยเป็นงานเร่งด่วนทั้ง กทม. คมนาคม กรมชลประทาน ทอท. และองค์การจัดการน้ำเสีย เพื่อสร้างความคล่องตัว-ปลดล็อกงบประมาณมีจำกัด ปูพรมระบบสาธารณูปโภคทั้งระบบ เตรียมรับธุรกิจท่องเที่ยวฟื้น

– สมาคมโรงสกัดน้ำมันถั่วเหลือง ออกโรงต้านโรงงานอาหารสัตว์ขอลดภาษีนำเข้ากากถั่วเหลืองจาก 2% เป็น 0% ชี้ลดภาษีเพื่อช่วยกลุ่มโรงงานอาหารสัตว์รายใหญ่เพียงกลุ่มเดียว แต่จะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองกว่า 19,056 ครัวเรือน ทุบซ้ำโรงสกัดน้ำมันถั่วเหลือง 4 โรงสุดท้ายของประเทศ ลามถึงอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป พ้อรัฐยอมกัดฟันตรึงราคาขายน้ำมันถั่วเหลืองทั้งๆ ที่ต้นทุนนำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองพุ่งเฉียด 70%

– สภาพัฒน์ ชี้ผลกระทบรัสเซีย-ยูเครน เลวร้ายสุดดันดีเซลพุ่ง 46 บาทต่อลิตร ฉุดจีดีพีไทยโตแค่ 3% จับตาจีนร่วมวงรัสเซียนำสู่ถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ยิ่งฉุดเศรษฐกิจโลกชะลอตัวรุนแรง สภาอุตฯ เผยยุโรปออร์เดอร์อาหารไทยเพิ่ม-รถยนต์ทรุดหดเป้าส่งออก ซีไอเอ็มบีไทยห่วงครึ่งหลัง ศก.ชะงัก เงินเฟ้อพุ่งปรี๊ด 10%

– ม.หอการค้าไทยชี้ ของแพงคนรัดเข็มขัด ลดใช้จ่ายสงกรานต์เหลือ 1.06 แสนล้าน ต่ำสุดรอบ 10 ปี ท่องเที่ยวเชียงใหม่ลุ้นสงกรานต์แรกในสามปี คาดคนเดินทางเข้าช่วงหยุดยาว 200,000 คน สร้างรายได้ 2,000 ล้านบาท สายการบิน-รถไฟ-บขส.เตรียมรับคนเดินทางเพิ่ม

หุ้นเด่นวันนี้

– BCH (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 23 บาท เสริมกันชนโควิด-19 ในพอร์ตรับสงกรานต์ ตัวเลขผู้ติดเชื้อมีโอกาสพุ่งขึ้นสูง รพ, ประกันสังคมได้ค่าตรวจ-รักษา เพิ่มต่อในไตรมาส 2 ลุ้นกำไรไตรมาส 1/65 เกินคาดรับ Omicron ระบาดช่วงต้นปี และอาจกินระยะเวลาต่อเนื่องไปตลอดไตรมาส 2 ทำให้กำไรทั้งปี 65 มีโอกาสสูงกว่าที่ตลาดประเมิน Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 65-66 เฉลี่ยที่ 2 พัน ลบ. และ 1.8 พัน ลบ. -69%YoY, -13%YoY ตามลำดับ

– BLA (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อเก็งกำไร ” เป้าหมาย IAA Consensus 48.25 บาท แนวโน้มผลประกอบการปี 65 จะได้รับประโยชน์จากสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายหนุนภาพรวมเศรษฐกิจฟื้นตัวช่วยสามารถขายประกันใหม่ได้ดีขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายจากการเคลมประกันสุขภาพและประกันชีวิตที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 จะลดลงตามแนวโน้มผู้ป่วยที่มีอาการหนัก ขณะที่แนวโน้มอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวสูงขึ้นทั้ง 5 ปี-10 ปี ส่งผลดีต่อรายได้จากการลงทุน ประกอบกับทิศทางเงินเฟ้อของไทยเร่งตัวขึ้นมากอาจทำให้มีโอกาสเห็น ธปท.ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 65 เติบโตราว +8%YoY และโตต่อในปี 66 ที่ +30%YoY

– ILINK (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” เป้าหมาย 12 บาท ปี 65 เป็นปีที่โดดเด่นของธุรกิจ Distribution จากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีโครงข่ายและความต้องการใช้อินเตอร์เน็ตที่รวดเร็วและเสถียร ทำให้มีความต้องการ Cabling ซึ่ง ILINK มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุด ขณะเดียวกัน ITEL จะฟื้นหลังถูกกระทบจากโควิด และได้ Strategic partner รุกธุรกิจ Data centerคาดกำไรสุทธิปี 2565-2566  +16% Y-Y และ +15% Y-Y ตามลำดับ และมี Upside ราว 15% ต่อปีใน 2 ปีข้างหน้าหากชนะงานประมูลก่อสร้างสายเคเบิ้ลใต้น้ำไปยังเกาะเต่า มูลค่ากว่า 1 พันลบ. มีผลต่อราคาเป้าหมายราว 1.2-1.4 บาท/หุ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 เม.ย. 65)

Tags: , ,
Back to Top