หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งบวก-ลบตามภูมิภาคจับตาบจ.ประกาศงบ-ประชุมเฟด

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบคล้ายตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยสัปดาห์นี้ตลาดน่าจะยังรอดูการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทย และการประชุมเฟดในช่วงต้นเดือนพ.ค.นี้ คาดการณ์ว่าเฟดจะเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปรับลดขนาดงบดุล ขณะเดียวกันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่เร่งตัวขึ้นกดดันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และภาพรวมตลาดหุ้นในช่วงนี้ด้วย ให้กรอบแนวรับ 1,670 จุด ถัดไปที่ 1,660 จุด ส่วนแนวต้าน 1,680-1,690 จุด

นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยสัปดาห์นี้ตลาดน่าจะรอติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนของไทย และยาวไปถึงการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงต้นเดือนพ.ค.นี้ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการปรับลดขนาดงบดุลลงเดือนละ 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์

รวมถึงการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) ที่ปรับตัวขึ้นกดดันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ทำให้ตลาดหุ้นน่ายังไปไหนได้ไม่ไกลนัก

ให้กรอบแนวรับ 1,670 จุด หากหลุดให้แนวรับถัดไปที่ 1,660 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,680-1,690 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (14 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,451.23 จุด ลดลง 113.36 จุด หรือ -0.33%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,392.59 จุด ลดลง 54.00 จุด หรือ -1.21% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,351.08 จุด ลดลง 292.51 จุด หรือ -2.14%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,831.45 จุด ร่วงลง 261.74 จุด หรือ

– 0.96% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,185.94 จุด ลดลง 25.30 จุด หรือ -0.79% ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการวันนี้ (18 เม.ย.) เนื่องในวัน Easter Monday

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (12 เม.ย.) ที่ระดับ 1,674.34 จุด ลดลง 4.12 จุด, -0.25%

– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 761.05 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 เม.ย.65

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.(14 เม.ย.) พุ่งขึ้น 2.70 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 106.95 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (15 เม.ย.) อยู่ที่ 20.08 ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 33.65 แนวโน้มอ่อนค่าตามภูมิภาค ให้กรอบเคลื่อนไหววันนี้ 33.60-33.75

– “อาคม” มั่นใจ เศรษฐกิจไทยปีนี้โต 3-4% สั่งเร่งคืนแวตเติมสภาพคล่องผู้ส่งออก เบ่งเป้าส่งออกขยายตัว 10% หวังสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ไม่ยืดเยื้อ ด้านสศค.หวั่น ราคาน้ำมัน-สินค้าแพง ฉุดเติบโต เตรียมทบทวนประมาณการจีดีพีปลายเดือนเม.ย.

– สศช.จับตาผลกระทบคว่ำบาตรรัสเซียลากยาว กระทบเศรษฐกิจไทยทั้งส่งออก-ท่องเที่ยวครึ่งปีหลัง ชี้เงินเฟ้อสูงกระทบเศรษฐกิจ ดันราคาน้ำมัน โภคภัณฑ์ ปุ๋ย อาหารสัตว์ ห่วงราคาส่งผ่านผลถึงผู้บริโภคเร็ว “กอบศักดิ์” ชี้สงคราม ฉุดเศรษฐกิจโลกยาว เตือนรับมือผลกระทบราคาพลังงาน เงินเฟ้อสูง คาด ธปท.ทยอยปรับดอกเบี้ยปี 66 หลังภาคท่องเที่ยวดีขึ้น นักเศรษฐศาสตร์ส่องไตรมาส 2 ศก.ต่ำสุดของปีหนี้ครัวเรือน-ของแพง ซ้ำเติมบริโภคดิ่ง

– ธุรกิจเร่งปรับแผนรับมือเศรษฐกิจครึ่งปีหลังชะลอ จากสถานการณ์ผันผวน หวั่นสงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ จับตา วิกฤติศรีลังกา ลามโดมิโนเอฟเฟ็กต์ ฉุดกำลังซื้อชะลอตัวต่อเนื่อง เร่งคุมต้นทุน ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น “เอไอเอส” เน้นการเติบโตในธุรกิจหลัก รักษาสภาพคล่อง “ไอบีเอ็ม” เน้นความยั่งยืน ทำงานร่วมพันธมิตร ลุ้นครึ่งปีหลัง “ท่องเที่ยว” ขยับ หวังตลาด “จีนเที่ยวไทย” ดันยอดทัวริสต์ต่างชาติปีนี้ แตะ 7-8 ล้านคน “โรงแรม” เร่งเพิ่มมัลติสกิลพนักงาน

– โรงพยาบาลจัดทัพรับประกาศโควิดเป็นโรคประจำถิ่น จับตาการแข่งขันแย่งคนไข้ระอุ “หมอบุญ วนาสิน” ฟันธงแนวโน้มรายได้จากโควิดเริ่มลด “ธนบุรี เฮลท์แคร์” เข็นบริการใหม่เสริม-ขยายการลงทุนสร้างรายได้ ขณะที่ “รามคำแหง” เพิ่มดีกรีเจาะกลุ่มผู้สูงอายุ-หัวใจ-สมอง กลุ่มเกษมราษฎร์ประกาศลุยครบเครื่อง ทั้งคนไข้ทั่วไป-ประกันสังคมยกระดับบริการ ผนึกบริษัทประกัน อำนวยความสะดวก-เพิ่มกำลังซื้อลูกค้า

– จับตาหนี้ประเทศพุ่งต่อเนื่อง หลังวิกฤตโควิด-19 “หนี้ครัวเรือน หนี้ภาคธุรกิจ หนี้สาธารณะ” ห่วงปัญหาเงินเฟ้อ-โควิด ซ้ำเติมกลุ่มเปราะบาง สัดส่วนหนี้บัตรเครดิตเพิ่ม เวิลด์แบงก์ชี้ หนี้ครัวเรือนเป็นปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจไทยระยะยาว

หุ้นเด่นวันนี้

– JMART(เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 68.00 บาท ภายในปี 65 มีโอกาสเข้า SET50 หนุนด้วยผลประกอบการและราคาหุ้นโตต่อเนื่อง คาดสิ้นปี Market Cap แตะ 1 แสน ลบ.ส่วนเป้า 3 ปีอยู่ที่ 5 แสน ลบ. Outlook กำไรลูกๆ Q1/65 JMT,SINGER แจ่ม ส่วนลูกนอกตลาด J-Venture ซุ่มพัฒนา Platform Blockchain ต่อเนื่อง ด้าน J-Fin ก.ล.ต.ยังไฟเขียวไม่มีประเด็นสะดุด Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 65-66 ที่ 1.96 พัน ลบ. และ 2.5 พัน ลบ. -20%YoY, +28%YoY ตามลำดับ

– SC (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” เป้าหมาย 4.60 บาท แม้ไตรมาส 1/65 จะเปิดตัวแนวราบเพียง 2 โครงการ แต่ทำ Take-up rate สูงเช่นเดียวกับปีก่อนหน้า บวกกับเน้นขายแนวราบระดับบนที่ถนัดยังไปได้ดี ทำให้ยอด Presales ไตรมาส 1/65 คาดยังแข็งแรง 5.2 พันลบ.คิดเป็น 24% ของเป้าทั้งปี ขณะที่ไตรมาส 2/65 จะเปิดโครงการใหม่เร่งขึ้นอย่างมีนัย หนุนโมเมนตัมยอด Presales เร่งขึ้นต่อเนื่อง เรายังคาดกำไรปกติปี 2565 +17% Y-Y ระยะสั้นงบ Q1/65 อาจอ่อนลงระยะสั้น แต่จะฟื้นตัวใน Q2/65และเร่งขึ้นเด่นใน H2/65 ปัจจุบันราคาเทรด PER เพียง 7 เท่า และให้ Dividend Yield ราว 5.3%

– BAFS (คิงส์ฟอร์) “ซื้อเก็งกำไร” เป้าหมาย IAA Consensus 31.75 บาท เป็นหุ้นได้ประโยชน์จากแผนการเปิดประเทศและความหวังจากกิจกรรมทางด้านการบินทยอยฟื้นตัวหลังมาตรการผ่อนคลายเดินทางเข้าไทยตั้งแต่ 1 เม.ย.โดยในปี 65 ผู้บริหารคาดปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานโต +119%YoY อยู่ที่ 3,594 ล้านลิตร ทั้งนี้บริษัทได้ตั้งงบลงทุนยาว 5 ปีไว้ 1.4 หมื่นล้านบาทลงทุนในธุรกิจใหม่ที่เป็นกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค (Utilities & Power) และกลุ่มบริการ (Business Services) เพื่อผลักดันให้มีรายได้ส่วนนี้เพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้ 50% ขณะที่รายได้จากธุรกิจปัจจุบันจะปรับลงเหลือ 50%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 เม.ย. 65)

Tags: , ,
Back to Top