เพื่อไทย ลั่นเป้าหมายแลนด์สไลด์ คว้า ส.ส.เกิน 250 ที่นั่ง กลับมาเป็นรัฐบาล

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคเพื่อไทย 2565 “แลนด์สไลด์ เพื่อไทย เพื่อคนไทยทุกคน” ว่า ตลอด 8 ปีภายใต้การปกครองและการบริหารของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้คนไทยต้องพบกับ 6 หลุมดำที่นำไปสู่ทางตันของประเทศและประชาชน ดังนี้

1. วิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศ คนจนล้นประเทศแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน หนี้ครัวเรือนสูงสุดในประวัติศาสตร์ ธุรกิจปิดตัวล้มตาย แรงงานตกงานสูงสุดทำลายสถิติ

2. วิกฤตสาธารณสุขครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศ จากการรับมือที่ผิดพลาด ปล่อยประชาชนเผชิญกับภัยของโรคระบาดตามยถากรรม

3. วิกฤตผู้นำที่ไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมโลก สร้างความอับอายให้ประเทศ และทำให้การต่อรองทางการทูต ทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ ที่ประชาชนควรได้รับ กลับหายไป

4. วิกฤตการเมือง วิกฤตประชาธิปไตยที่เสื่อมโทรม รัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ การละเมิดสิทธิมนุษยชนทำลายผู้เห็นต่างโดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ ทำลายระบบรัฐสภาด้วยการทำลายพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม ซื้อขายตัวนักการเมือง ทำลายมาตรฐานทางการเมืองที่ควรจะเป็นอย่างรุนแรงมากสุดเป็นประวัติการณ์

5. วิกฤตหนี้ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติงบประมาณที่ไม่ได้สร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ไม่สร้างรายได้ หนี้สาธารณะของประเทศสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ความเป็นอยู่ของประชาชนไม่ได้ดีขึ้นแถมยังดับฝันอนาคตลูกหลานด้วยหนี้ก้อนโตที่ฉุดรั้งการพัฒนาประเทศในระยะยาว

6. วิกฤตคอร์รัปชันที่รุนแรงมากที่สุดเท่าที่ประเทศเคยมีมา

“เราไม่อาจยอมรับชะตากรรมเช่นนี้ได้อีกต่อไป ถึงเวลาแล้วที่ต้องออกจากวิกฤตนี้และทางออกเดียวที่เรามีวันนี้คือ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องออกไป พรรคเพื่อไทยต้องกลับมา” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว พร้อมย้ำว่า “วันนี้เรามั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยคือทางเลือกที่ดีที่สุด ที่จะพาพี่น้องชาวไทยออกจากหลุมดำแห่งความทุกข์ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาได้”

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า แม้ที่ผ่านมา 8 ปีพรรคจะตกอยู่ในฐานะฝ่ายค้าน แต่ก็เป็นต้นไม้ต้นใหญ่ที่ได้ผลัดใบหลายครั้งเพื่อตอบสนองโลกยุคใหม่ ในวันนี้จึงกล้าพูดว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่มีส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างระหว่างผู้มีประสบการณ์ในการเป็นรัฐบาล กับ คนรุ่นใหม่ที่อยากใช้พลัง ความรู้ความสามารถเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ อีกทั้งยังมีส่วนผสมระหว่าง ส.ส. พื้นที่ ที่เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนกับผู้บริหารพรรค ที่ตอบสนองการมองภาพใหญ่เชิงนโยบายในการแก้ไขปัญหาของประเทศ

ความสิ้นหวังของประเทศ เกิดจากคนเพียงกลุ่มหนึ่ง ที่เสพติด ‘อำนาจ’ และทำทุกอย่างเพื่อรักษาอำนาจ สร้างรัฐธรรมนูญที่ผูกขาดอำนาจไว้กับรัฐราชการและพวกพ้อง โดยประเทศและประชาชนตกเป็นเหยื่อ กฎเกณฑ์ กติกาและระเบียบกฎหมายที่เขียนขึ้น ขาดความเท่าทันโลกที่เปลี่ยนแปลง และยังเป็นอุปสรรคอย่างสำคัญยิ่งต่อการแก้ปัญหาชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน และยิ่งไปกว่านั้น รัฐธรรมนูญฉบับนี้วางกลไกให้คนไทยต้องอยู่กับรัฐบาลที่ไร้ศักยภาพ ไม่สร้างความหวัง ไม่สร้างอนาคตให้พี่น้องประชาชน

“วันนี้เราขอประกาศว่า ถึงเวลาแล้ว และเราพร้อมแล้ว ที่จะเข้ามารับช่วงต่อประเทศในยามมืดมนที่สุด ทุกข์ทรมานที่สุด เพื่อขจัดฝันร้ายให้พี่น้องประชาชน”

หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า นับตั้งแต่พรรคไทยรักไทยในปี 2544 ถึงเพื่อไทยในปี 2565 ไม่ว่าจะผ่านการเลือกตั้งกี่ครั้งเราชนะทุกครั้ง แต่ในการเลือกตั้งปี 2562 พรรคเพื่อไทยได้มี ส.ส. มากที่สุดถึง 136 ที่นั่งแต่กลับไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะมี ส.ว. 250 คน ที่พร้อมจะโหวตให้กับผู้มีอำนาจที่เลือกพวกเขาเข้ามา กลายเป็น เราชนะ แต่เราแพ้ พรรคเพื่อไทยชนะ แต่ไม่สามารถเป็นรัฐบาล ซึ่งบทเรียนครั้งนั้นสอนเราว่า การเลือกพรรคเพื่อไทยให้ชนะเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ

สำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไปเราต้องไม่ใช่แค่ชนะ แต่ต้องชนะให้ขาด จะต้องเป็นการเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทยต้องแลนด์สไลด์ ด้วยเก้าอี้ในสภาเกิน 250 ที่นั่ง เพื่อให้เสียงของเรา สามารถควบคุมสภาล่าง และการบริหารของรัฐบาล เพราะต่อให้ ส.ว. แต่งตั้ง จะเลือกนายกเผด็จการได้ แต่จะเป็นข้อการันตีว่า รัฐบาลที่ไม่ได้มาจากเสียงส่วนใหญ่ ไม่มีวันบริหารประเทศนี้ได้

“เราไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นฝ่ายค้าน เราเกิดมาเพื่อเป็นรัฐบาล เป็นเครื่องมือของประชาชน ทำงานให้ประชาชน ให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น ผมขอโอกาสให้พรรคเพื่อไทย ได้แสดงศักยภาพอีกครั้ง ให้เพื่อไทย ได้พาประชาชนหลุดพ้น จากวิกฤตและหลุมดำสักที เลือกเพื่อไทย ให้ชนะพรรค ส.ว. ลากตั้ง เลือกเพื่อไทย ให้แลนด์สไลด์ เพื่อคนไทยทุกคน”

หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว

ด้านน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ ยืนยัน ไม่ทิ้งคนรากหญ้า แม้เสียงคนส่วนใหญ่ของประเทศจะไม่ดังเท่าเสียงคนส่วนน้อย โดยจะดำเนินการ ประกอบด้วย

1.ส่งเสริมการมีส่วนรวมและกระจายอำนาจสู่ประชาชน ให้มีการกระจายอำนาจทางการศึกษา สาธารณสุข การเกษตรและการปกครองท้องถิ่นให้อยู่ในระดับจังหวัด ไม่ต้องขึ้นมาที่ส่วนกลาง เพื่อให้กระทรวงต่างๆมีขนาดเล็กลง ไม่ล่าช้าเหมือนปัจจุบัน

2.ดึงศักยภาพของคนไทยโดยใช้ Soft power 1 คนต่อ 1 ครอบครัว เท่ากับ บ้านเราจะมี 16 ล้าน Soft power และจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น

3.เกษตรกรต้องเข้าถึงเทคโนโลยี เพื่อลดต้นทุนการผลิต ทั้งการใช้ปุ๋ยและยาฆ่าแมลง ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีในการถนอมผลผลิตทางการเกษตร

4.จุดเปลี่ยนสำคัญ Digital Transformation ครั้งใหญ่ ด้วยการใช้ระบบออนไลน์ในการติดต่อราชการ นอกจากนี้ จะพัฒนาเรื่องสินค้า OTOP โดยยืนยันว่า หากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะทำให้ดีกว่าสมัยพรรคไทยรักไทย

5.เตรียมคนไทยเข้าสู่ยุค Metaverse เพื่อพัฒนา เพื่อให้คนไทยเข้าสู่ตลาดดิจิทัล เช่น คริปโทฯ พร้อมปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อนวัตกรรม เพื่อให้ประเทศหลุดพ้นจากความล้าหลังทางด้านเทคโนโลยี เชื่อว่า เมื่อเข้าสู่ยุค Metaverse ได้ จะมีคนรุ่นใหม่ที่ก้าวข้ามจากความยากจนไปเป็นมหาเศรษฐีได้ ที่สำคัญ ไทยจะไม่เป็นเมืองขึ้นทางเทคโนโลยีของต่างประเทศอีกต่อไป พร้อมประกาศเป้าหมายของพรรคเพื่อไทยว่า “คนไทยทำ คนไทยใช้ คนไทยฉลาด คนไทยเจริญ”

น.ส.แพทองธาร ย้ำว่า หากพรรคเพื่อไทยมีโอกาสบริหารประเทศ 8 ปี คงไม่เห็นปรากฎการณ์คนย้ายประเทศ เพราะคนอยู่ต่างประเทศอยากกลับมาประเทศของเรา ดังนั้น เป้าหมายต่อไป ต้องแลนด์สไลด์ ต้องได้อำนาจรัฐ ทุกสิ่งที่กล่าวมาจึงจะเป็นจริงได้ และจะทำทุกอย่างให้เป็นรูปธรรม เมื่อรัฐบาลประกาศยุบสภา เพราะเป้าหมายของเพื่อไทยคือ แลนด์สไลด์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 เม.ย. 65)

Tags: ,
Back to Top