สหรัฐเตือนรัสเซียเตรียมผนวกดินแดนส่วนใหญ่ในยูเครนตะวันออกปลายพ.ค.นี้

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐเตือนว่ารัสเซียมีแผนที่จะผนวกดินแดนส่วนใหญ่ของยูเครนฝั่งตะวันออกในปลายเดือนพ.ค.นี้ และโรงงานผลิตเหล็กอาซอฟสตัล ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของเมืองมาริอูโพล ก็ถูกโจมตีอีกครั้งในหนึ่งวันหลังจากการอพยพพลเรือนครั้งแรกออกจากโรงงานดังกล่าว

นายไมเคิล คาร์เพนเตอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำองค์การความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) กล่าวเมื่อวานนี้ (2 พ.ค.) ว่า สหรัฐเชื่อว่ารัสเซียยังมีแผนจะรับรองเมืองเคอร์ซอนทางตอนใต้ของยูเครนให้เป็นสาธารณรัฐอิสระอีกด้วย ซึ่งความเคลื่อนไหวเหล่านี้จะไม่ได้รับการยอมรับจากสหรัฐหรือชาติพันธมิตรแต่อย่างใด

นายคาร์เพนเตอร์กล่าวโดยอ้างข้อมูลว่า รัสเซียกำลังวางแผนจัดทำประชามติปลอม ๆ ในแคว้นโดเนตสก์-ลูฮันสก์ของยูเครน หรือที่รัสเซียเรียกว่า “สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และลูฮันสก์” เพื่อพยายามเพิ่มความชอบธรรมจำแลงว่ามีระบอบประชาธิปไตยหรือมีการเลือกตั้ง และเพิ่มองคาพยพดังกล่าวให้เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย นอกจากนี้ นายคาร์เพนเตอร์ยังกล่าวอีกว่า มีสัญญาณบ่งชี้ว่ารัสเซียจะวางแผนจัดการลงคะแนนเสียงในเมืองเคอร์ซอนให้ประกาศเอกราชจากยูเครนอีกด้วย

นอกจากนี้ นายคาร์เพนเตอร์ตั้งข้อสังเกตว่ามีการลักพาตัวนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภานิติบัญญัติในท้องที่ บริการอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือถูกตัดขาด และรัสเซียกำลังจะนำหลักสูตรการเรียนการสอนแบบของตนมาใช้ในยูเครนเร็ว ๆ นี้ ด้านรัฐบาลยูเครนกล่าวว่า รัสเซียยังได้นำเงินรูเบิลมาใช้เป็นสกุลเงินที่ยูเครนอีกด้วย

คลิปวิดีโอที่มีการเผยแพร่ล่าสุดบ่งชี้ว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (1 พ.ค.) ประชาชนมากกว่า 100 คน รวมทั้งกลุ่มหญิงชราและกลุ่มคุณแม่พร้อมลูกที่ยังเล็ก หนีออกจากซากโรงงานผลิตเหล็กอาซอฟสตัลในเมืองมาริอูโพลที่ถูกทิ้งระเบิด แล้วออกเดินทางด้วยรถโดยสารและรถพยาบาลไปยังเมืองซาปอริซเซียของยูเครน ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 230 กิโลเมตร (140 ไมล์)

ทั้งนี้ ดูเหมือนว่าประชาชนบางส่วนจะถูกนำตัวไปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งควบคุมโดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย โดยกองทัพรัสเซียกล่าวว่า ประชาชนบางส่วนเลือกที่จะอยู่ในพื้นที่ของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ขณะที่อีกหลายสิบคนเลือกอยู่ในพื้นที่ของยูเครน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 พ.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top