หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งตัวลงยังกังวลเงินเฟ้อสูงส่งเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ แกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์ดาวน์ เนื่องจากนักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้นแตะ 3.1% แล้ว โดยยังคงกังวลต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่คาดตึงตัวเร็วต่อเนื่องและมีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.5-0.75% ในการประชุมเดือน มิ.ย. จึงกดดันบรรยากาศการลงทุน ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียก็ปรับตัวลงด้วยกันทั้งหมด ให้แนวรับไว้ที่ 1,621-1,620 จุด และแนวต้าน 1,635-1,645 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ แกว่ง ไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์ดาวน์ ในกรอบที่จำกัดมากขึ้น หลังจากปรับตัวลงไปมากแล้วจนเข้าสู่จุด Over Sold โดยปัจจัย หลักๆยังมาจากเรื่องของภาวะเงินเฟ้อ ที่อยู่ในระดับสูง ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นจน แตะระดับ 3.17% แล้ว จึงกดดันบรรยากาศการลงทุน ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียก็ปรับตัวลดลง

ทั้งนี้ดัชนีฯ ปรับตัวร่วงลง ทดสอบแนวรับ 1,620 จุด คาดอาจมีการรีบาวน์ได้ทางเทคนิค แต่อย่างไรก็ตามนัก ลงทุนยังคงจับตาดูตัวเลขเงินเฟ้อในวันที่ 11 พ.ค.นี้ หากออกมาใกล้เคียงตามคาดการณ์ ที่ 8.1% ก็น่าจะทำให้คลาย ความกังวลในเรื่องของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า 0.5% ลงได้

ให้แนวรับไว้ที่ 1,621-1,620 จุด และแนวต้าน 1,635-1,645 จุด

บล.เคทีบีเอสที มองแนวโน้มตลาดวันนี้คาด SET Index ยังแกว่งตัวในแดนลบต่อเนื่องลงทดสอบ 1,620+- จุด จากบรรยากาศการลงทุนที่ยังเป็นลบต่อเนื่อง เม็ดเงินยังคงไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงและเข้าถือ Dollar โดยยังคงกังวลต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่คาดตึงตัวเร็วต่อเนื่องและมีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.5-0.75% ในการประชุมเดือน มิ.ย. พร้อมเริ่มลดขนาดงบดุลเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่ยังเร่งตัว

โดยสัปดาห์นี้ต้องติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯและจีนเดือน เม.ย. หากเร่งตัวมากกว่าคาดจะเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นต่อเนื่อง

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (6 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,899.37 จุด ลดลง 98.60 จุด หรือ -0.30%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,123.34 จุด ลดลง 23.53 จุด หรือ -0.57% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,144.66 จุด ลดลง 173.03 จุด หรือ -1.40%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,705.32 จุด ร่วงลง 298.24 จุด หรือ -1.1% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่2,990.20 จุด ลดลง 11.36 จุด หรือ -0.37% ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการวันนี้เนื่องในวันหยุดราชการ
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (6 พ.ค.) ที่ระดับ 1,629.58 จุด ลดลง 13.72 จุด, -0.83%
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 291.87 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 พ.ค.65
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.(6 พ.ค.) เพิ่มขึ้น 1.51 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 109.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (6 พ.ค.) อยู่ที่ 23.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.42 อ่อนค่าจากสัปดาห์ก่อนตามทิศทางตลาด มองกรอบวันนี้ 34.30-34.50
  • คลังเข้าคิวรีดภาษีเพิ่ม อุดรายได้รัฐบาล เดินหน้าเก็บ “ภาษีที่ดิน” 100% ทั่วประเทศ กทม.ขยายให้จ่ายช้าได้ 2 เดือน “ภาษีขายหุ้น” เก็บแน่แค่รอสงครามรัสเซีย-ยูเครนคลี่คลาย น้ำอัดลม-เครื่องดื่มชูกำลังตบเท้าขอขยายจ่ายภาษีความหวานอีก 2 ปี ส่วนภาษีนิติบุคคลจากแพลตฟอร์มต่างประเทศจัดเก็บปี 2567
  • รัฐบาลยื้อสารพัดเมกะโปรเจกต์ แก้สัญญาไฮสปีดเทรน 3 สนามบินไม่คืบ ล้มประมูลรถไฟฟ้า สายสีส้ม-ท่อน้ำอีอีซี ยื้อตรวจสอบทุจริต ก่อสร้างรัฐสภา ยืดเวลาเคาะดีล “ทรู-ดีแทค” นักวิชาการประเมินปีสุดท้ายรัฐบาลเข้า โหมดเพลย์เซฟ ประคองตัวให้ครบเทอม “เอกชน” ห่วงหลายโครงการล่าช้าฉุดศักยภาพประเทศ
  • “คมนาคม” กางแผน ดันประมูลเมกะโปรเจกต์ 36 โครงการ กว่า 1.57 ล้านล้าน ประเดิมโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ “ศักดิ์สยาม” มั่นใจปีนี้ดันเม็ดเงินลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจ เร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2565 ตามแผน 2 แสนล้าน
  • กกร.นัดถก 11 พ.ค.นี้ ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทย หลังเปิดประเทศเต็มรูปแบบ มั่นใจส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจแต่ยังคงกังวลปัจจัยเสี่ยงต้นทุนการผลิตพุ่งรอบด้าน ทั้งพลังงาน ราคาสินค้า หวั่นเงินเฟ้อสูงกดดันค่าครองชีพประชาชนเพิ่มฉุดแรงซื้อตกต่ำ
  • ททท.กางแผนฟื้นท่องเที่ยวเต็มสูบ หลังยกเลิก Test & Go มุ่งเป้าไตรมาส 4 ต่างชาติทะลุ 1 ล้านคนต่อเดือน ขยายฐานตลาดต่อเนื่องถึงปี 66 ดึงนักท่องเที่ยวขยับแตะ 20 ล้านคน เดินสายงานทราเวล เทรดชั้นนำทั่วโลก ผนึกพันธมิตรทำโปรโมชั่นเจาะกลุ่มรายตลาด ทั้งดันขยายสิทธิ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4” เพิ่มห้องพักอีก 1 ล้านสิทธิหนุนไทยเที่ยวไทย
  • บาทอ่อนค่าสุดรอบ 5 ปี สินค้าเกษตรได้เฮ “ข้าว-ยาง-มัน-ไก่-ผลไม้” ลุ้นทำรายได้-กำไรส่งออกเพิ่ม ท่องเที่ยวยิ้มได้อานิสงส์ ม.หอการค้าฯ ชี้หากเฉลี่ยทั้งปี 34.50 บาท ดูดเงินเข้าประเทศได้อีกเกือบ 2 แสนล้าน สวนทางนำเข้าจุกอกต้นทุนพุ่ง สรท.จี้ทำประกันความเสี่ยงเพิ่ม “กรุงไทย” เตือนเก็งกำไรค่าเงินระวังเจ็บตัว

หุ้นเด่นวันนี้

  • SAPPE (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” มีแนวโน้มปรับราคาเป้าหมายขึ้นจาก 33 บาท คาดกำไรไตรมาส 1/65 +136% Q-Q, +50% Y-Y เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่เหมือนในไตรมาส 4/64 และรายได้ส่งออกยังเติบโตแข็งแกร่ง ช่วยหักล้างการอ่อนลงของรายได้ในประเทศ และยังมีสต็อก Pet Resin พอใช้ถึงกลางปี 2565 รวมถึง Product Mix ที่ดี ทำให้ Gross Margin คาดยังทรงตัวสูง กำไรไตรมาส 2/65 จะเร่งตัวเพราะเข้า High Season และมีแผนทยอยออกสินค้าใหม่มากขึ้น นอกจากนี้ยังเห็นการเติบโตของตลาดอินเดียที่เร่งขึ้นตัวและมีศักยภาพสูง เรามีแนวโน้มปรับประมาณการกำไรปี 2565 ขึ้นจากปัจจุบันที่คาด +6% Y-Y
  • BLA (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 47.00 บาท ประเมินรายได้จากเบี้ยประกันปี 65 เติบโตต่อ หนุนด้วยผลตอบแทนจากการลงทุนที่เพิ่มขึ้นตามทิศทาง Bond Yield สหรัฐ ที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ลุ้นการปรับเข้าคำนวณใน SET50 ในรอบล่าสุด ประเมินคุณสมบัติครบถ้วน Market Cap. เกินระดับ 7 หมื่น ลบ. Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 25655-2566 เฉลี่ยที่ 5.11 พัน ลบ. และ 6.12 พัน ลบ. +59%YoY, +20%YoY ตามลำดับ
  • TOP (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 67.00 บาท คาดเห็นทิศทางค่าการกลั่นทยอยฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกปี 65 ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวหลังทั่วโลกผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ในระยะสั้นไตรมาส 1/65 คาดผลการดำเนินงานของ TOP มีกำไรสุทธิ เติบโต QoQ, YoY ปัจจัยหนุนจากการใช้กำลังการผลิตและ Market GIM ที่ปรับตัวดีขึ้น โดยค่าการกลั่นฟื้นตัวแข็งแกร่ง และการบันทึกกำไร Inventory Gain ช่วยชดเชย Crude Premium ที่แพงขึ้น ส่วนต่างราคา BZ น้ำมันหล่อลื่นที่ลดลง สำหรับปี 65 เราประเมินกำไรปกติ 9.65 พันล้านบาท +131%YoY ธุรกิจโรงกลั่นที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก และยังมีการบันทึกกำไรพิเศษในไตรมาส 2/65 จากการลดสัดส่วนการลงทุนใน GPSC ลงเหลือ 10%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 พ.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top