DOD คาดผลงาน H2/65 ฟื้นรับผลกำลังซื้อดีขึ้นหลังโควิดคลี่คลาย แม้ Q1/65 ขาดทุน

น.ส.สุวารินทร์ ก้อนทอง ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บมจ. ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมายังคงส่งผลกระทบต่อเนื่องในส่วนของกำลังซื้อผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลให้ผลประกอบการงวดไตรมาส 1/65 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565 บริษัทฯมีรายได้จากการขายจำนวน 160.82 ล้านบาท หรือลดลง 54.77% ขณะที่กำไรจากการดำเนินงาน จำนวน 6.52 ล้านบาท หรือลดลง 95.59% แต่หากพิจารณาจากฐานะทางการเงินของบริษัทฯยังมีสภาพคล่องและความมั่นคงทางการเงินในระดับที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียน (Current Ratio) เท่ากับ 2.48 เท่า และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Debt to Equity Ratio) เท่ากับ 0.27 เท่า

ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า ผลประกอบการในช่วงไตรมาสแรก ปรับตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อสินค้าประกอบกับค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการเริ่มดำเนินงานของโรงสกัดสารสกัดจากกัญชง พืชกระท่อม และพืชสมุนไพรไทย ของบริษัท สยาม เฮอเบิล เทค จำกัด (SHT) ซึ่งในไตรมาสแรกยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการลงทุน จึงยังไม่สามารถสร้างรายได้ แต่ในไตรมาส 2/2565 ภาครัฐบาลผ่อนคลายมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และประชาชนเริ่มกลับมาดำเนินชีวิตปกติ สะท้อนให้เห็นจากการจับจ่ายใช้สอยที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ส่งผลให้คำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์จากกลุ่มลูกค้าเริ่มกลับมา อีกทั้ง SHT สามารถดำเนินการสกัดสาร CBD จำหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้เป็นที่เรียบร้อย ดังนั้นจึงมองว่าหลังจากนี้ภาพรวมธุรกิจจะฟื้นตัวอย่างแน่นอน

นายธนิน ศรีเศรษฐี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DOD เปิดเผยถึงแนวโน้มภาพรวมธุรกิจในไตรมาส 2/65 ว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมส่งสัญญาณฟื้นตัว โดยจะเห็นจากคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลง รวมถึงการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวช่วยหนุนให้กิจกรรมการทางเศรษฐกิจกลับมาคึกคักอีกครั้ง ขณะเดียวกันจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจในเรื่องสุขภาพมากขึ้น ซึ่งสอดรับกับผลิตผลิตภัณฑ์ของ DOD และจากปัจจัยบวกที่เริ่มกลับมาส่งผลให้บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อน

นายธนิน กล่าวว่า หลังจากบริษัทฯได้รับคำสั่งซื้อจากกลุ่มลูกค้า เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมสารสกัดจากกัญชง ในส่วนของ CBD (Cannabidiol) ส่วนผสมน้ำมันจากเมล็ดกัญชง (Hemp Seed Oil) และจากโปรตีนเมล็ดกัญชงที่มีสาร Tetrahydrocannabinol (THC) ต่ำกว่า 0.2% ทั้งในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อความสวยงามและสุขภาพในช่วงที่ผ่านมา ล่าสุดอยู่ระหว่างการเตรียมทยอยส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีส่วนผสมสารสกัดจากกัญชง ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2565 อย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากได้การอนุมัติเอกสารอนุญาตขอรับเลขสารบบ “13 หลัก” (เลข อย.) จากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว 3 – 5 SKU ในการออกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ เพิ่มภูมิต้านทาน และผ่อนคลาย

พร้อมกันนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการยื่นขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากกัญชงเพิ่มเติม ประกอบด้วยกลุ่มผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่มีส่วนผสมของ CBD กว่า 30 SKU กลุ่มผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันจากเมล็ดกัญชง (Hemp Seed Oil) กว่า 20 SKU และกลุ่มผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของใบกัญชง อีกประมาณ 20 SKU ส่งผลให้บริษัทฯมั่นใจว่า จะมีผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดไม่ต่ำกว่า 50 SKU อย่างแน่นอน

ขณะที่ บริษัท SHT ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ DOD ซึ่งดำเนินธุรกิจ โรงสกัดสารสกัดจากกัญชง พืชกระท่อม และพืชสมุนไพรไทย ล่าสุดได้พร้อมสกัดสาร CBD จากช่อดอกจำนวน 1,000 กิโลกรัมต่อเดือน และสามารถสกัดสาร CBD ได้ 50 กิโลกรัมต่อเดือน โดยได้มีการส่งมอบให้กับ DOD เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ส่งมอบให้ลูกค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะเริ่มจำหน่ายสารสกัด CBD ทั้งในรูปแบบของผงชงละลายน้ำ และ CBD เข้มข้นสำหรับผสมในเครื่องดื่ม ให้กับกลุ่มผู้ประกอบทั่วไป เพื่อนำไปใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆได้ในช่วงครึ่งปีหลัง 65

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ค. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top