นลท.ขายทิ้งเหรียญเทเธอร์กว่า 7 พันล้านดอลล์ หวั่นไร้หลักทรัพย์ค้ำประกัน

นักลงทุนเทขายเหรียญเทเธอร์กว่า 7 พันล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ราคาร่วงหลุดจากระดับที่ผูกติดกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้เกิดความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับทุนสำรองที่ใช้หนุนเหรียญเทเธอร์ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์ขนาดใหญ่ที่สุดของโลก

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานข้อมูลจากคอยน์เกกโก (CoinGecko) ระบุว่า ปริมาณการหมุนเวียนของเหรียญเทเธอร์ลดลงจากประมาณ 8.3 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน ลงเหลือน้อยกว่า 7.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในวันอังคาร (17 พ.ค.)

ตามหลักการแล้วเหรียญสเตเบิลคอยน์ต้องมีมูลค่าเท่ากับ 1 ดอลลาร์ แต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา ราคาของเทเธอร์ร่วงสู่ระดับต่ำถึง 95 เซนต์ ท่ามกลางความตื่นตระหนกเกี่ยวกับการทรุดตัวลงของเทอร์รายูเอสดี (terraUSD) หรือยูเอสที (UST) ซึ่งเป็นเหรียญคู่แข่งของเทเธอร์

สเตเบิลคอยน์ส่วนใหญ่นั้นใช้เงินตราเป็นเครื่องค้ำประกัน ภายใต้หลักการว่าจะต้องมีหลักประกันเพียงพอในกรณีที่นักลงทุนตัดสินใจเทขายเหรียญเพื่อถอนเงินลงทุน แต่สเตเบิลคอยน์ “อัลกอริทึม” ชนิดใหม่ เช่น เทอร์รายูเอสดีนั้นผูกติดกับดอลลาร์ และไม่ได้ใช้สินทรัพย์ค้ำประกันจริง ซึ่งเหรียญประเภทดังกล่าวต้องเผชิญกับบททดสอบเมื่อไม่นานมานี้ เนื่องจากนักลงทุนแห่เทขายคริปโทเคอร์เรนซี

ก่อนหน้านี้ บริษัทเทเธอร์อ้างว่าเหรียญทั้งหมดได้รับการค้ำประกันด้วยเงิน 1 ดอลลาร์ต่อ 1 เหรียญ โดยฝากไว้ที่ธนาคาร

อย่างไรก็ตาม หลังจากได้ข้อยุติกับทางอัยการสูงสุดของรัฐนิวยอร์ก บริษัทเทเธอร์เปิดเผยว่า ทางบริษัทได้ใช้สินทรัพย์อื่น ๆ ในการค้ำประกันเหรียญเทเธอร์ เช่น ตราสารพาณิชย์ (commercial paper) ซึ่งเป็นตราสารหนี้ระยะสั้นไม่มีหลักประกันที่ออกโดยบริษัทต่าง ๆ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 พ.ค. 65)

Tags: , , , , , ,
Back to Top