กมธ. มั่นใจกม.ลูก 2 ฉบับไม่สะดุด คาดไทม์ไลน์ประกาศใช้ปลายก.ย.-ต้นต.ค.65

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง เชื่อว่า การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับจะบรรจุเข้าสู่วาระของที่ประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาวาระ 2 และวาระ 3 ได้ในวันที่ 9 มิ.ย.65 โดยไม่มีปัญหา และเชื่อว่าจะเป็นไปตามที่ กมธ.เสนอ และทุกอย่างจะจบในวันที่ 10 มิ.ย.65

โดยเมื่อรัฐสภาเห็นชอบแล้วต้องส่งไปให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาเนื้อหาเพียงองค์กรเดียว โดยไม่ส่งศาลรัฐธรรมนูญ โดย กกต.จะพิจารณาไม่เกิน 15 วันว่าเนื้อหาร่าง พ.ร.บ. ที่รัฐสภาเห็นชอบขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ หรือมีปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.หรือไม่ จากนั้นจะส่งคืนสู่สภาฯ หากไม่มีประเด็นใดๆ ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ สามารถส่งให้นายกฯ จากนั้นประมาณ 20 วัน นายกฯ ก็จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ จากนั้นอีกไม่เกิน 90 วัน ประมาณปลายเดือน ก.ย.65 หรือต้นเดือน ต.ค.65 กฎหมายลูกจะประกาศใช้

นายไพบูลย์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่จะมีผู้ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.ขัดต่อรัฐธรรมนูญนั้นถือเป็นคนละขั้นตอน

“ผมเชื่อว่าเสียงข้างมากในรัฐสภาจะเห็นชอบกับที่ กมธ.แก้ไข ส่วนกระแสโหวตคว่ำร่างกฎหมายลูกจะเป็นไปได้หรือไม่นั้น เป็นแค่คนพูดถึงเท่านั้น แต่ไม่มีความเป็นไปได้ในสถานการณ์หรือบริบทใดๆ ทั้งสิ้นในการคว่ำร่าง สำหรับผมถือว่าไม่มีความเป็นไปได้เลย” นายไพบูลย์ กล่าว

เมื่อถามถึงสัญญาณทางการเมืองและการเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง นายไพบูลย์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่มีอุบัติเหตุทางการเมือง อยู่ครบวาระแน่ และกฎหมายลูกก็ไม่มีปัญหาใดๆ ในการพิจารณาเป็นไปด้วยความเรียบร้อยทุกประการ ส่วนตัวคิดว่าถ้าลงมติหาร 100 แล้วคงไม่ได้ไปศาลรัฐธรรมนูญ เพราะชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ จึงไม่มีประเด็นที่จะไปศาลรัฐธรรมนูญ

ส่วนสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่อาจพลิกกลับใช้สูตร 500 คนหารได้หรือไม่นั้น นายไพบูลย์ เชื่อว่า ไม่มี และยืนยันเสียงข้างมากของรัฐสภาจะเห็นด้วยกับที่ กมธ.เสนอ

“เมื่อกมธ.เสียงข้างมาก 32 ต่อ 11 เสียงมีมติให้คงตามร่างเดิมก็เชื่อว่าที่ประชุมรัฐสภาก็จะคงตามร่างเดิม ไม่มีการแก้ไข ส่วน ส.ว.ที่เป็น กมธ. ซึ่งเป็นเสียงข้างน้อยและสนับสนุนให้หาร 500 คนนั้น จากข้อมูลพบว่าขาดความเป็นเอกภาพ อีกทั้ง ส.ว.ในรัฐสภาก็ถือเป็นเสียง 1 ใน 3 แต่เสียงที่เห็นชอบนั้นส่วนใหญ่มาจากส.ส.ประมาณ 90% ซึ่ง ส.ส.มีตั้ง 476 คน จึงไม่มีปัญหาในเรื่องการลงมติ ทั้งหมดคงจะผ่านไปด้วยความเรียบร้อย” นายไพบูลย์ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 พ.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top