เงินเฟ้อญี่ปุ่นเดือนเม.ย.พุ่ง 2.1% ทะลุเป้า BOJ เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี

กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (20 พ.ค.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนเม.ย.ขยายตัว 2.1% จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นการขยายตัวเร็วที่สุดในรอบ 7 ปี และสูงกว่าระดับเป้าหมายเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กำหนดไว้ที่ 2% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2558 เนื่องจากเงินเยนที่อ่อนค่า และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้นส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าสูงขึ้น

ทั้งนี้ ดัชนี CPI พุ่งขึ้นในเดือนเม.ย. เนื่องจากการปรับลดอัตราค่าโทรศัพท์มือถือลงอย่างมากเป็นเวลาหลายเดือนนั้นได้เริ่มที่จะไม่มีผลกระทบกับข้อมูลเงินเฟ้อ โดยเงินเฟ้อในเดือนมี.ค.นั้นเพิ่มขึ้น 0.8%

นอกจากนี้ สงครามในยูเครนยังส่งผลให้ราคาพลังงาน รวมถึงน้ำมันดิบและวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งสร้างแรงกดดันด้านเงินเฟ้อให้กับญี่ปุ่นซึ่งขาดแคลนทรัพยากร

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสดเนื่องจากมีความผันผวนนั้น อยู่เหนือระดับ 2% ครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนมี.ค. 2558 ภายหลังการปรับขึ้นภาษีการบริโภคจาก 5% เป็น 8%

นอกจากผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีแล้ว ดัชนี CPI ไม่ได้อยู่เหนือระดับเป้าหมาย 2% นับตั้งแต่ที่ BOJ ได้เปิดตัวนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายภายใต้ผู้ว่าการธนาคารคนปัจจุบันที่เข้ารับตำแหน่งตั้งแต่ปี 2556

ทั้งนี้ ราคาพลังงานพุ่งขึ้น 19.1% โดยราคาน้ำมันเบนซิน, น้ำมันก๊าด, ก๊าซ และไฟฟ้า ล้วนเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขสองหลัก

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top