หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าบวกต่อแต่จำกัด ติดตามตัวเลข ศก.สหรัฐ-รายงานประชุมเฟด

นักวิเคราะห์ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ฟื้นตัวต่อหลังเงินดอลลาร์อ่อนค่า บอนด์ยิลด์ลดลง และ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ ศบค. เดินหน้าผ่อนคลายมาตรการหนุนบรรยากาศการท่องเที่ยวกลับมา แต่มองไปไม่ไกลเนื่องจากสัปดาห์นี้มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาหลายตัว และ รายงานประชุมเฟด พร้อมให้แนวรับที่ 1,610-1,615 จุด และ แนวต้าน 1,625-1,635 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้น ไทยเช้านี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ หลังเงินดอลลาร์อ่อนค่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ(Bond Yield) มีทิศทางย่อ ตัวลง ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้ประเทศไทยยังได้รับปัจจัยหนุนจากการเดินหน้าเปิดประเทศ โดยศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้คลายมาตรการต่างๆในเดือน มิ.ย. ที่จะถึงนี้ โดยเฉพาะการให้กลับมาเปิดผับบาร์ จะช่วยหนุนบรรยากาศ การท่องเที่ยวให้กลัลมาฟื้นตัว

แต่อย่างไรก็ตามมองว่าการปรับตัวขึ้นไปได้ไม่ไกล เนื่องจากในสัปดาห์นี้ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐหลายตัว อาทิเช่นดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนเม.ย. , ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย และ รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นต้น

พร้อมให้แนวรับที่ 1,610-1,615 จุด และ แนวต้าน 1,625-1,635 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (20 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,261.90 จุด เพิ่มขึ้น 8.77 จุด หรือ +0.03% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,901.36 จุด เพิ่มขึ้น 0.57 จุด หรือ +0.01% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,354.62 จุด ลดลง 33.88 จุด หรือ -0.30%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 2626,991.42 จุด พุ่งขึ้น 252.39 จุด หรือ +0.94%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,608.65 จุด ลดลง 108.59 จุด หรือ -0.52% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,150.49 จุด เพิ่มขึ้น 3.92 จุด หรือ +0.12%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (20 พ.ค.) ที่ระดับ 1,622.95 จุด เพิ่มขึ้น 16.97 จุด, +1.06%
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,204.54 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 พ.ค.65
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.(20 พ.ค.)เพิ่มขึ้น 1.02 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 113.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 พ.ค.) อยู่ที่ 21.22 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.35 คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 34.25-34.50 ตลาดรอปัจจัยใหม่
  • สนค.วิเคราะห์ผลลดภาษีสรรพสามิตดีเซลต่ออีก 2 เดือนดึงเงินเฟ้อลดลงเล็กน้อยแทบไม่มีผลช่วยลดค่าครองชีพประชาชน ขณะที่กรมการค้าภายใน ขอความร่วมมือ 6 ห้างดังเกาะติดสถานการณ์สินค้าจำเป็น หลังความต้องการเพิ่มขึ้น 10% ขณะที่ “กนป.” เกาะติดปัญหาปาล์มแพงวันนี้
  • สถานะกองทุนน้ำมันฯ ย่ำแย่หนัก ติดลบทะลุ 70,000 ล้านบาท ใกล้จะได้เห็น 100,000 ล้านบาท อีกไม่นานนี้หากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังไม่ลดลง ชี้ลดภาษีสรรพสามิต 5 บาท/ลิตรเพื่อ “ซื้อเวลา” ตรึงดีเซลไว้ในกรอบ ไม่เกิน 35 บาท/ลิตร ทั้งๆ ที่ราคาจริงใกล้ 40 กว่าบาท ด้านสถาบันการเงินยังไม่มีสัญญาณใดๆ ว่าจะปล่อยกู้กองทุน เหตุกังวลความสามารถ-เวลาในการชำระหนี้ ด้าน “ศุภวุฒิ” ชี้รัฐบาลต้องบอกความจริงประชาชน
  • เอเชีย เอรา วัน เมินรับมอบที่ดินมักกะสัน ลามตอกเข็มไฮสปีด 3 สนามบินชะงัก! คาดปมขยายเวลา 3 เดือน ไม่ทัน ปลดล็อกลำรางสาธารณะ พ้นโฉนด ด้าน รฟท.ดิ้น ชงมือกฎหมายเมืองไทย “มีชัย ฤชุพันธุ์” ปธ.กฤษฎีกาตีความ เหตุเคยใช้ประโยชน์เป็นพวงรางรถไฟ-โรงซ่อม มาก่อน
  • รัฐบาล ยันเศรษฐกิจประเทศฟื้นตัว เสถียรภาพการเงิน การคลังยังดี แม้เจอวิกฤตซ้อนวิกฤต รอแค่เปิดประเทศเต็มที่ ได้ภาคการท่องเที่ยว การส่งออก เป็นปัจจัยหนุน ธปท.เชื่อมั่นไม่เกิด Stagflation แนะรับมือ 3 เมกะเทรนด์ “บิ๊กตู่” ปลื้มผลงาน 7 ปี ลุยพัฒนารองรับการเติบโตในอนาคต

หุ้นเด่นวันนี้

  • BANPU (กรุงศรี)”ซื้อ” เป้า 16.5 บาท ราคาถ่านหินพุ่งต่อเนื่องล่าสุดปรับขึ้นสู่ระดับ 436$/ton ใกล้เคียงกับระดับ All time high ที่ 455$/ton ประกอบกับเมื่อวันศุกร์ประกาศข่าวซื้อแหล่งก๊าซในสหรัฐเพิ่มคาดหนุนปริมาณการผลิตก๊าซ รายได้และกำไรของ BANPU เพิ่มเบื้องต้นคาดดีลนี้หนุน Upside 9%
  • FORTH (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 53.50 บาท คาด Order ผลิตตู้เต่าบินโตต่อเนื่องรับการขยายตู้ของ Agent จำนวนล่าสุด 1.3 พันตู้ ยอดขายเม.ย.ต่อวันแตะ 3.6 ล้านบาท ส่วนเป้า ณ สิ้นปี 65 ที่ 5 พันตู้ คาด Boost ยอดขายอีกมาก ส่วนงาน Project ใน Pipe line ปี 65-66 แน่นที่ 9.7 พัน ลบ.กลยุทธ์ขยายตู้เต่าบินผ่าน Agent ต่อเนื่อง กระแสดี ราคาเข้าถึงได้ง่าย หลังเปิดเมืองและเปิดโรงเรียน คาด Demand เพิ่ม ประเมินกำไรสุทธิปี 65-66 ที่ 912 ลบ.และ 1 พันลบ. +26%YoY, +14%YoY ตามลำดับ
  • CPN (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 67.00 บาท ปัจจัยบวกคลายล็อกดาวน์และเปิดประเทศ หนุนปริมาณ Traffic กลับสู่ปกติ รับรู้รายได้เปิดศูนย์การค้าใหม่ 2 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัลอยุธยาและเซ็นทรัลศรีราชาเต็มปี และในปี 65 เปิดเซ็นทรัลจันทบุรีเพิ่ม รวมถึงรับรู้ฯ SF ที่ถือหุ้น 96.24% ส่งผลบวกต่อกำไรเพิ่มระยะยาว กำไรปกติปี 65 ตลาดคาดอยู่ที่ราว 9.2 พันล้านบาท EPS 2.09 บาท/หุ้น เติบโตราว 29%YoY บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง Net D/E ที่ 0.8x ต่ำกว่า Covenant ที่ 1.75x สามารถรองรับการขยายธุรกิจ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top