เอเชี่ยน อะไลอันซ์ฯ ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 637.50 ล้านหุ้น-เข้า SET ใช้ขยายกำลังผลิต

บมจ.เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 637,500,000 หุ้น คิดเป็น 30% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน ซึ่งประกอบด้วย หุ้นสามัญเพิ่มทุนเสนอขายโดยบริษัท 425,000,000 หุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย บมจ.เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น (ASIAN) 212,500,000 หุ้น และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) โดยมี บล.ทิสโก้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

วัตถุประสงค์ในการใช้เงินจากการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ เพื่อลงทุนในที่ดิน อาคาร เครื่องจักรและอุปกรณ์ เพื่อขยายกำลังการผลิต และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

ทั้งนี้ เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะปิดผนึก ที่เก็บรักษาได้นานโดยไม่ต้องแช่เย็นหรือแช่เยือกแข็ง และผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้จากการแปรรูปปลาทูน่า เช่น ปลาป่น น้ำนึ่งปลา และน้ำมันปลา

ปัจจุบัน บริษัทมีแบรนด์ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าในทุกตลาดย่อย (Market Segment) ซึ่งประกอบด้วย แบรนด์มองชู (monchou) แบรนด์มองชู บาลานซ์ (monchou balanced) แบรนด์ฮาจิโกะ (Hajiko) แบรนด์โปร (Pro) และแบรนด์มาเรีย (Maria)

บริษัทมีโรงงานผลิต 2 แห่ง ได้แก่ (1) โรงงานสมุทรสาคร ตั้งอยู่ใน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เป็นฐานการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียก ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะปิดผนึก และผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้จากการแปรรูปปลาทูน่า มีกำลังการผลิตรวมสูงสุด 59,500 ตันต่อปี และ (2) โรงงาน MEISI ดำเนินการโดย Shandong Thaiya Meisi Pet Food Co., Ltd ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้าในกลุ่มบริษัท ตั้งอยู่ที่มณฑลซานตง ประเทศจีน เป็นฐานการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบเม็ด กำลังการผลิตรวมสูงสุดเท่ากับ 20,000 ตันต่อปี

ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการขยายกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกเพิ่มเติมอีก 6,000 ตันต่อปี ซึ่งจะดำเนินการแล้วเสร็จในไตรมาส 2/65 นอกจากนี้ ในอนาคตบริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกในประเทศไทยอีกประมาณ 40,000 ตัน เพื่อรองรับแผนการเติบโตของคู่ค้ารายสำคัญ โดยบริษัทคาดว่าจะเริ่มลงทุนในปี 65 และเริ่มทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ตั้งแต่ต้นปี 66

ในเดือน มี.ค.65 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 1,700 ล้านบาท เป็น 2,125 ล้านบาท พร้อมกับเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) จากเดิมหุ้นละ 10 บาท เป็น 1 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 425 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก และนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

โครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัท ณ วันที่ 31 มี.ค.65 มี ASIAN ถือหุ้น 1,699,993,000 หุ้น หรือคิดเป็น 100% ภายหลังเสนอขายหุ้น IPO จะลดสัดส่วนลงเหลือ 70%

ผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นจาก 2,909.86 ล้านบาทในปี 59 ซึ่งเป็นปีที่รายได้จากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากความสำเร็จในการปรับตัวเข้าสู่ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงแบบพรีเมี่ยม เป็น 4,985.49 ล้านบาทในปี 564 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 11.37% ต่อปี และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 16.41 ล้านบาทในปี 59 เป็น 639.01 ล้านบาทในปี 64 คิดเป็น CAGR ที่ 108.01% ต่อปี

ณ วันที่ 31 ธ.ค.64 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 3,606.44 ล้านบาท หนี้สินรวม 1,229.94 ล้านบาท และส่วนผู้ถือหุ้น 2,376.50 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินรวม ภายหลังจากหักภาษี และการจัดสรรทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายและบริษัทกำหนดไว้ในแต่ละปี

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 พ.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top