TRUE บวก 3.18% ตอบรับกำไรจากขาย DIF โบรกฯคาดผลงาน Q2/65 ค่อยๆฟื้นตัว

ราคาหุ้น TRUE ปรับขึ้น 3.18% หรือเพิ่มขึ้น 0.14 บาท มาที่ 4.54 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,822.30 ล้านบาท เมื่อเวลา 15.16 น.ขณะที่ราคาหน่วยลงทุนกองทุน DIF ปรับลง 3.57% หรือลดลง 0.50 บาท มาที่ 13.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 3,006.16 ล้านบาท

บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) เปิดเผยว่า วันที่ 1 มิถุนายน 2565 บริษัทฯได้ขายหน่วยลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF) จำนวน 300 ล้านหน่วยให้แก่นักลงทุน โดยที่มาของการกำหนดราคาจำหน่ายหน่วยลงทุนนั้นได้พิจารณาจากการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ของนักลงทุน (book building)

ทั้งนี้ การขายหน่วยลงทุนดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 2.82% ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดในกองทุน โดยหลังจากการขายหน่วยลงทุนแล้ว กลุ่มบริษัทฯ จะถือหน่วยลงทุนในสัดส่วน ประมาณ 20.56% ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดในกองทุน

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนวโน้มผลการดำเนินงาน TRUE ในไตรมาส 2/65 คาดค่อยๆฟื้นตัว q-q แต่ยังไม่เด่น กดดันจากการแข่งขันรุนแรงต่อเนื่อง สวนทางกับต้นทุน D&A และรายจ่ายโครงข่ายขาขึ้น ดังนั้น เราจึงคาดขาดทุนปกติ ในไตรมาส 2/65 มากขึ้นจากไตรมาส 2/64 ที่ -94 ลบ. และประเมินการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้น อาจทำให้ประมาณการรายได้บริการปีนี้ของบริษัทและของเรา +5% มีโอกาสเกิด downside โดยทุก ๆ -1%ของรายได้บริการที่ลดลงจะมีผลต่อขาดทุนเพิ่มราว -1.0 พันลบ.

เชิงปัจจัยพื้นฐานให้น้ำหนักหลักอยู่ที่ดีลการควบบริษัทกับ DTAC ที่จะทำให้ใช้ทรัพยากรที่มีได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดรายจ่ายที่ซ้ำซ้อนได้ไม่ต่ำกว่า 5.0 พันลบ./ปี โดยตามกระบวนการปัจจุบันอยู่ในช่วงรอกสทช.จัด focus group อีกครั้งต้นมิ.ย. หลังจากนั้น เราประเมินความคืบหน้าจากกสทช.จะชัดเจนขึ้นภายในไตรมาส 3/65

คงคำแนะนำ “BUY” โดยมีราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 5.4 บาท แม้ระยะสั้นอาจมี sentiment ลบจากความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการอนุมัติดีลควบบริษัทจากหน่วยงานภาครัฐ แต่เบื้องต้น อิงตามคำประกาศพ.ศ. 2561 เรายังเชื่อว่าดีลควบบริษัทจะยังเกิดขึ้นได้แต่จะมีเงื่อนไขคล้ายกับดีลควบรวมกิจการกลุ่ม CP ซื้อโลตัส ในขณะที่ราคาหุ้นช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาก็ปรับลงมาจนต่ำกว่าราคาที่จะทำคำเสนอซื้อ (VTO) เบื้องต้นที่ 5.09 บ./หุ้น แล้วและเริ่มใกล้เคียงกับราคาหุ้น TRUE ช่วงก่อนประกาศดีลควบบริษัทกับ DTAC ที่ 4.32 บ. (19 พ.ย.64) จึงมองเป็นจังหวะทยอยสะสมหุ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 มิ.ย. 65)

Tags: , ,
Back to Top