ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมหนุนความเท่าเทียม​ตาม​หลักปชต.​ ไม่เลือกปฏิบัติเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดงาน Pride Month 2022 ณ ลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความเข้าใจ สนับสนุนความเท่าเทียม และยอมรับความหลากหลายทางเพศ ของหน่วยงาน กทม. สนับสนุนกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTQI+ ในกรุงเทพฯ ได้รับการยอมรับผ่านความเข้าใจจาก กทม. ในฐานะหน่วยงานรัฐ รวมถึงประชาชนได้รับการบริการอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ ด้วยความเข้าใจในความอ่อนไหวทางเพศ (gender sensitivity) และความเท่าเทียมทางเพศ พร้อมเจตนารมณ์ให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองแห่งความแตกต่างหลากหลาย พร้อมเปิดนโยบายสนับสนุนความเท่าเทียม​

นายชัชชาติ กล่าวว่า ไม่อยากให้มองว่าเป็นเรื่องของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศเท่านั้น อยากชวนให้มอง Pride Month เป็นกิจกรรมที่สะท้อนวาระทางสังคม สังคมที่อยู่ร่วมกันท่ามกลางความหลากหลาย ความเข้าใจ การยอมรับ และการให้เกียรติซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นรากฐานที่จะทำให้ทุกคนมีตัวตน มีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางอัตลักษณ์ ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายและเข้าถึงสวัสดิการอย่างเท่าเทียม

” Pride Month​ ไม่ใช่แค่เพียงความแตกต่างทางเพศเท่านั้น​ มันรวมถึง​ความแตกต่างทางความคิด​ การเมือง​ ความคิดเห็น​ เราแตกต่างกันได้แต่อย่าทะเลาะ​ อย่าเกลียดชัง​ เข้าใจซึ่งกันและกัน​ ร่วมมือ​ แล้วเราจะเดินร่วมกันได้​ อย่าลืมว่าสังคมเราไม่ได้มีแค่ 0 กับ 1 (ไบนารี) Pride หมายถึง ความภาคภูมิใจความหลากหลายของสังคมประชาธิปไตย​ เพราะฉะนั้น กทม. จะดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน​ตาม​หลักของประชาธิปไตย​ โดยไม่เลือกปฏิบัติเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง​” ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว

นายชัชชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า กทม. เองจะผลักดันนโยบายเพื่อสนับสนุนความหลากหลายทางเพศและสร้างความเท่าเทียม ทั้งในเชิงสัญลักษณ์ สวัสดิการ และการบริการ เพื่อให้กรุงเทพฯเป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน สิ่งที่ กทม. จะทำทันที คือ Pride Month โดยอยู่ใน 1 ใน 12 เทศกาล นำร่องพัฒนาคลินิกสุขภาพเพศหลากหลาย ให้คำปรึกษา ให้การศึกษาเรื่องความหลากหลายทางเพศผ่านเรื่องพลเมืองโลกโดยเริ่มต้นในโรงเรียนสังกัด กทม.

นอกจากการสนับสนุนนโยบายต่างๆ แล้ว กทม. ยังตั้งมั่นที่จะเป็นองค์กรภาครัฐ ที่ขับเคลื่อนเชิงสัญลักษณ์ ร่วมกับภาคีเครือข่ายประชาชน ภาคธุรกิจ ในการรณรงค์สิทธิของประชาชน เป็นพลังในการสนับสนุนการเคลื่อนไหวบนพื้นฐานด้านสิทธิเสรีภาพ ประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน

ทั้งนี้ นโยบายด้าน LGBTQ+ ใน กทม. หรือกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ เป็นส่วนหนึ่งในนโยบาย 214 ข้อ โดยได้รับการยอมรับผ่านความเข้าใจจาก กทม. ในฐานะหน่วยงานรัฐ ประชาชนได้รับการบริการอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ ด้วยความเข้าใจในความอ่อนไหวทางเพศ (gender sensitivity) และความเท่าเทียมทางเพศ การยอมรับความหลากหลายทางเพศวิถีและอัตลักษณ์ทางเพศในสังคมไทยยังคงมีเงื่อนไข ในฐานะหน่วยงานรัฐของประชาชนและนายจ้างของข้าราชการ กทม. การยอมรับและเข้าใจถึงความหลากหลายเป็นก้าวที่สำคัญสำหรับภาครัฐไทยให้ทัดเทียมกับภาคเอกชนหรือเครือข่ายต่าง ๆ นอกจากเรื่องความหลากหลายทางเพศวิถีแล้วยังมีเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ ซึ่งเป็นหัวใจหลักที่หน่วยงาน กทม. ต้องให้ความสำคัญ สามารถริเริ่มได้โดย

  1. กำหนดหลักธรรมาภิบาลของหน่วยงานใน กทม. ให้การยอมรับโดยไม่มีเงื่อนไขในสังคมและสนับสนุนความเท่าเทียม
  2. อบรมให้เจ้าหน้าที่ภายในหน่วยงานของ กทม. ปฏิบัติต่อเจ้าหน้าที่และประชาชน โดยเฉพาะผู้มีความหลากหลายทางเพศอย่างเท่าเทียม เน้นการยอมรับและความเข้าใจ
  3. สามารถร้องทุกข์เรื่องการปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมได้
  4. สนับสนุนการแสดงออกที่หลากหลาย โดยไม่บังคับแต่งชุดเครื่องแบบข้าราชการตามเพศกำเนิด สามารถใส่ตามที่สะดวกใจได้
  5. มีกฎเพื่อป้องกันการคุกคามทางเพศในหน่วยงาน กทม. และยังนำร่องพัฒนาคลินิกสุขภาพเพศหลากหลาย ซึ่งปัจจุบันคลินิกสาธารณสุขเฉพาะทางด้านสุขภาพของกลุ่ม LGBTQI+ ในโรงพยาบาลของรัฐมีเพียง 2 แห่งเท่านั้น คือคลินิกสุขภาพเพศของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และคลินิกสุขภาพเพศหลากหลาย โรงพยาบาลรามาธิบดี

ดังนั้น กทม. จะนำร่องเปิดศูนย์ให้คำปรึกษาทางการแพทย์ในประเด็นจำเพาะ เช่น บริการจิตวิทยาการปรึกษา การใช้ยา-ฮอร์โมน และการผ่าตัดแปลงเพศของกลุ่มคนข้ามเพศในศูนย์บริการสาธารณสุข (ศบส.) หรือโรงพยาบาลในสังกัด กทม. ตามความเหมาะสม เพื่อสร้างสวัสดิการของรัฐที่ครอบคลุมความหลากหลายของมนุษย์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 มิ.ย. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top