สภาฯ พิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ภูมิใจไทยขอเสียงหนุน/ฝ่ายค้านติงส่อเอื้อนายทุน

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียน พรรคภูมิใจไทย แถลงเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ. กัญชา กัญชง (ฉบับที่…) พ.ศ…. ซึ่งจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ในวันนี้ว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ประกาศของกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับยาเสพติดประเภทที่ 5 ที่กัญชาเป็นยาเสพติด และหลังจากวันที่ 9 มิ.ย. กัญชาจะไม่เป็นยาเสพติดอีกต่อไป

“นี่คือสิ่งที่พรรคภูมิใจไทยได้ดำเนินการ ได้หาเสียงไว้ในเรื่องกัญชาเสรี เพราะทุกถ้อยคำที่ปรากฏอยู่ในป้ายหาเสียง เราได้ทำตามที่สัญญาไว้กับประชาชนว่าพูดและทำแล้ว ดังนั้นสิ่งที่ต้องดำเนินการต่อไป คือ จะทำอย่างไรให้กัญชาเป็นประโยชน์มากที่สุด ซึ่งในการประชุมสภาฯ วันนี้ จะเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชง กัญชา ในวาระแรก ซึ่งหากส.ส.ให้ความเห็นชอบ และตั้งกรรมาธิการก็จะสามารถพิจารณาได้ภายใน 1 เดือน เนื่องจากมีอยู่เพียง 45 มาตราเท่านั้น”

นายศุภชัย กล่าว

ส่วนที่มีผู้ห่วงใยและมีความกังวลเรื่องการดูแลการใช้และอาจมีความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นายศุภชัย กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้เขียนไว้ชัดเจนว่า ไม่ให้จำหน่ายแก่บุคคลที่อายุต่ำกว่า 20 ปี, หญิงมีครรภ์, หญิงให้นมบุตร สิ่งที่มีความห่วงใยคือ เมื่อปลดล็อกแล้วจะเกิดสูญญากาศ เกิดหลุมดำในการที่จะทำให้ทุกคนมีเสรีภาพในการใช้กัญชากันอย่างเต็มที่ หากได้ติดตามจะพบว่ากระทรวงสาธารณสุขได้ออกคำสั่งกระทรวงสาธารณสุขที่ 667/2565 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการสื่อสารและประชาสัมพันธ์การใช้กัญชาอย่างเข้าใจ ซึ่งเป็นบุคคลที่เข้าใจเรื่องยาเสพติด ฉะนั้นความไม่สบายใจที่ว่าจะเกิดหลุมดำ คณะกรรมการเหล่านี้มีหน้าที่สร้างความเข้าใจในการใช้กัญชา นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุขก็พยายามที่จะใช้กฎหมายที่มีอยู่ในการกำกับการใช้กัญชา เพื่อให้เป็นประโยชน์อย่างสมบูรณ์ ไม่ก่อความเดือดร้อนให้ใคร ซึ่งน่าจะช่วยสร้างความสบายใจให้ประชาชนได้ว่า ส่วนราชการไม่ได้ปล่อยปะละเลยให้เกิดช่องว่างและทำให้เกิดปัญหา

“ผมขอฝากไปยัง ส.ส.พรรคอื่นว่า อะไรที่คิดว่าเป็นประโยชน์ ในการทำให้กัญชาเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ โดยส่วนรวม ต่อประชาชนในการเสนออะไรเพิ่มเติม รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนจากภายนอก เราก็พร้อมจะนำเข้าไปบรรจุในร่าง พ.ร.บ.ฯ เพื่อให้เป็นกฎหมายที่สมบูรณ์ดีที่สุด กฎหมายนี้ไม่ได้เป็นกฎหมายของพรรคภูมิใจไทย แต่ควรเป็นกฎหมายของประชาชน เพราะที่นี่คือสภาผู้แทนราษฎร และเราเป็นผู้แทนของราษฎร วันนี้ภูมิใจไทยทำมาถึงจุดนี้ได้ เราถือว่าไม่ได้ทำมาอย่างโดดเดี่ยว แต่เราได้รับการสนับสนุนจากประชาชน และสมาชิกพรรคการเมืองทุกพรรค หวังว่าการดำเนินเกี่ยวกับเรื่องพ.ร.บ.ฉบับนี้ จะเป็นไปด้วยความสำเร็จไปด้วยดี ดังนั้น ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า ส.ส.ทุกพรรค จะทำเพื่อประโยชน์ให้กับประชาชน วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ 8 มิ.ย. เพราะเป็นวันสุดท้ายของกัญชาที่จะเป็นยาเสพติด”

นายศุภชัย กล่าว

ในการอภิปรายของ ส.ส.นั้น ส่วนใหญ่สนับสนุนให้ตราเป็นกฎหมาย แต่ได้ตั้งข้อสังเกตว่าร่างกฎหมายดังกล่าว ส่อเอื้อให้นายทุน มากกว่าช่วยเหลือเกษตรกร โดยเฉพาะการกำหนดบทนิยามคำว่า ผลิตให้หมายรวมถึงการปลูก ซึ่งตามร่างกฎหมายต้องขอใบอนุญาต ซึ่งมีขั้นตอนและค่าใช้จ่ายที่ประชาชนหรือเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยไม่สามารถดำเนินการขออนุญาตได้ และหากฝ่าฝืนจะเป็นผู้มีความผิดทันที

นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคปวงชนไทย อภิปรายว่า ขั้นตอนการขออนุญาตที่ใช้เงิน มีเส้นสาย หากใครมีเงินมีเส้นสายจะทำได้มากและได้รวดเร็ว ทั้งนี้ มีกลุ่มทุนใหญ่เตรียมการปลูกไว้หลายหมื่นไร่ ที่เมื่อกฎหมายตราใช้จะสามารถส่งขายได้ทันที ขณะที่ประชาชน เกษตรกรจะปลูก ต้องเริ่มต้นเมื่อกฎหมายใช้บังคับ ถือว่าการเริ่มต้นไม่พร้อมกัน ทั้งนี้ มองว่าเพื่อให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้ ต้องแก้ไขเนื้อหา ไม่ใช่ออกกฎหมายเพื่อเป็นประโยชน์กับนายทุนเท่านั้น

“ประชาชนมีความหวังว่าปลูกกัญชาได้ แต่ต้องปลูกแบบง่าย โดยแก้ความหมายคำว่า ผลิต ที่หมายรวมถึงการเพาะปลูก ทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ สังเคราะห์ เพราะการปลูก การเพาะ ไม่ใช่การผลิต ผมพร้อมสนับสนุน แต่ต้องแก้ไขเพื่อให้ประโยชน์ตกประชาชน ปลูกง่าย เหมือนปลูกพืชสมุนไพรโดยไม่ต้องขออนุญาตปลูก”

นายนิคม ระบุ

ด้านนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ไม่สบายใจที่จะลงมติให้ เนื่องจากร่างกฎหมายที่เสนอนั้นมีเนื้อหาที่ส่อขัดสนธิสัญญาสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่กำหนดให้กัญชาจัดอยู่ในยาเสพติดประเภทรุนแรง และอนุญาตให้ใช้เฉพาะทางการแพทย์และศึกษาวิจัยทดลอง แต่ปัจจุบันกระแสที่เกิดขึ้นในประเทศ คือ กัญชาเสรี ให้ชาวบ้านปลูก และทำเพื่อส่งออก อาจจะขัดต่อสนธิสัญญาระหว่างประเทศดังกล่าวได้

“หากร่างกฎหมายฉบับนี้เป็นความหวังประชาชน ผมไม่ติดขัด แต่ต้องทำให้รอบคอบ และไม่ขัดต่อข้อผูกพันระหว่างประเทศ ร่างกฎหมายที่เสนอ ผมมองว่าเขียนแบบกำกวม ทั้งนี้การขายกระแสกัญชาเสรี เหมือนสร้างความหวังให้ประชาชนร่ำรวย แต่หากขัดกับสนธิสัญาอาจทำไม่ได้ ฝ่าฝืนคือผิด ผมทราบว่ามีการสร้างความตื่นตัว และมีคนมีเงินวางระบบไว้แล้ว เหมือนเป็นกับดัก และใช้ชาวบ้านบังหน้า แต่คนที่ได้จริงคือนายทุน”

นายสุทิน อภิปราย

นายสุทิน อภิปรายด้วยว่า กังวลหากเปิดให้ใช้กัญชาแบบเสรี อาจเป็นความเสี่ยงเกิดนครกัญชา และมีเยาวชนเสพ แม้ร่างกฎหมายกำหนดห้ามจำหน่ายให้เด็กต่ำกว่า 20 ปี แต่ต้องเพิ่มความเข้มงวด ทั้งกระบวนการยุติธรรมขั้นต้น คือ ตำรวจจะกวดขันเข้มข้นหรือไม่ เพราะตนมองว่าปัญหาสังคมยาเสพติด อย่างยาบ้ายังเอาไม่อยู่ หากให้ใช้กัญชาเสรีอาจนำบุตรหลานไปสู่อะไรไม่รู้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 มิ.ย. 65)

Tags: , ,
Back to Top