กลุ่มธุรกิจโรงแรมสหรัฐจี้รัฐบาลยกเลิกบังคับนทท.ตรวจโควิดก่อนเดินทาง

บรรดาผู้บริหารธุรกิจสายการบินและโรงแรมที่พักในสหรัฐได้ออกมากดดันรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้ยกเลิกข้อกำหนดให้ผู้ที่เดินทางมายังสหรัฐต้องแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นลบก่อนออกเดินทาง โดยระบุว่า กฎข้อบังคับดังกล่าวทำให้นักท่องเที่ยวไม่อยากเดินทางมาสหรัฐและจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ

นายโทนี คาปูอาโน ซีอีโอของโรงแรมแมริออท กล่าวว่า “มาตรการที่กำหนดให้ตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเดินทางมาสหรัฐนั้นทำให้นักท่องเที่ยวไม่มั่นใจ ซึ่งเป็นอุปสรรคอีกข้อที่ทำให้พวกเขาหันไปเลือกจุดหมายปลายทางอื่นที่ไม่เข้มงวดเท่า และจะทำให้สหรัฐพลาดโอกาสหากไม่นำมาตรการควบคุมที่ไม่จำเป็นออกไป”

ทั้งนี้ นายกเทศมนตรีเกือบ 40 คนในเมืองซานฟรานซิสโกและไมอามียังได้ยื่นจดหมายถึงนายแพทย์อาชิช จา หัวหน้าฝ่ายบริหารด้านการรับมือสถานการณ์โควิด-19 ของทำเนียบขาวในสัปดาห์นี้ เพื่อขอให้ยกเลิกมาตรการแสดงผลตรวจเป็นลบก่อนออกเดินทาง โดยในจดหมายระบุว่า เมืองต่าง ๆ ในสหรัฐยังคงประสบปัญหาในการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมา

นอกจากนี้ ผู้บริหารแวดวงการท่องเที่ยวยังได้เข้าพบนายแพทย์จาเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ยังไม่ได้รับคำตอบว่าจะยกเลิกมาตรการดังกล่าวเมื่อใด โดยโทรี บาร์นส์ ประธานสมาคมการท่องเที่ยวของสหรัฐกล่าวว่า “ฝ่ายรัฐบาลยังบอกไม่ได้ว่าจะยกเลิกมาตรการตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเดินทางเมื่อใด”

ขณะเดียวกันนายจอน บอร์ทซ ซีอีโอของเพบเบิลบรูค โฮเทล ทรัสต์ (Pebblebrook Hotel Trust) กล่าวว่า “มาตรการตรวจโควิดก่อนเดินทางทำให้นักท่องเที่ยวชะลอการจองเที่ยวบินและที่พักมายังสหรัฐ”

ทางด้านนายเกล็นน์ โฟเกล ซีอีโอของบริษัทบุคกิ้ง โฮลดิงส์ (Booking Holdings) ผู้ให้บริการธุรกิจการท่องเที่ยวออนไลน์ที่ใหญ่สุดในโลก ระบุว่ามาตรการตรวจหาเชื้อทำให้นักท่องเที่ยวหันไปประเทศอื่น เพราะต้องการเลี่ยงมาตรการนี้

ข้อเรียกร้องดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่อังกฤษ อิตาลี กรีซ และประเทศอื่น ๆ ได้ยกเลิกข้อกำหนดดังกล่าวแล้วเช่นเดียกวับหลายประเทศทั่วโลก ส่วนประเทศที่ใช้มาตรการแบบเดียวกับสหรัฐนั้น ได้แก่ เกาหลีใต้และญี่ปุ่น

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในสหรัฐยังคงบังคับให้ผู้เดินทางเข้าประเทศต้องแสดงผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนมาแล้วกี่เข็มหรือเป็นพลเรือนของสหรัฐก็ตาม

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 มิ.ย. 65)

Tags: ,
Back to Top