การประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่…) พ.ศ. … หรือร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งเสนอโดยนายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลและคณะ, ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต พ.ศ. …, ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่…) พ.ศ. … ซึ่งเสนอโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) และร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต พ.ศ. … ที่เสนอโดยนายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์และคณะ
ทั้งนี้ นายธัญวัจน์ ได้นำเสนอหลักการ โดยยืนยันว่าการเสนอร่างกฎหมายดังกล่าว ไม่ใช่เป็นการเรียกร้องสิทธิ แต่คืนการทวงสิทธิที่บุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศตามกฎหมายโดยไม่ถูกเลือกปฏิบัติ
ขณะที่นายอิสระ นำเสนอหลักการว่า ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต ของพรรคประชาธิปัตย์ มีเนื้อหาที่แตกต่างจากฉบับที่ ครม.เสนอ เนื่องจากฉบับของ ครม.ที่กระทรวงยุติธรรมยกร่างนั้น เป็นการเขียนเนื้อหาที่ทำให้บุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศที่ต้องการเป็นคู่ชีวิตเป็นพลเมืองชั้นสอง และกำหนดให้เป็นบุคคลเพศเดียวกันจดทะเบียนเป็นคู่ชีวิต แต่ฉบับของประชาธิปัตย์คือการให้สิทธิบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศสมรส เป็นคู่ชีวิตกันได้ จึงเป็นการให้โอกาสคนทุกคน ทุกเพศ ไม่เลือกปฏิบัติกับเพศใด มองคนเท่ากัน เลือกกระดับความสัมพันธ์กับทุกระดับความสัมพันธ์
จากนั้นได้เข้าสู่การอภิปรายของสมาชิก ซึ่งใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง ทั้งนี้พบว่าการอภิปรายส่วนใหญ่ของ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านสนับสนุนร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมของพรรคก้าวไกล และไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายที่ ครม.และพรรคประชาธิปัตย์เสนอ ขณะที่ ส.ส.พรรครัฐบาล ให้ความเห็นในทิศทางตรงกันข้าม แม้จะยอมรับกับการให้สิทธิบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศมีสิทธิตั้งสถาบันครอบครัว แต่คัดค้านร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม
ในช่วงท้ายของการอภิปราย และเป็นการทำหน้าที่ของนายศุภชัย โพธิสุ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 พบว่านายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ที่เป็นผู้อภิปรายคนสุดท้ายของฝ่ายค้าน ขออภิปรายพร้อมเปิดคลิปวีดีโอที่ระบุว่าสัมภาษณ์ผู้ชุมนุมหน้ารัฐสภา เพื่อให้ ส.ส.ฟังเสียงของประชาชน เนื่องจากทราบว่ามติของวิปรัฐบาลจะลงมติไม่รับหลักการ แต่ไม่ได้รับอนุญาตจากประธาน
ทำให้นายณัฐพงษ์ ต้องพูดด้วยเสียงสั่นเครือและน้ำตาคลอเบ้าว่า “ผมเป็น ส.ส.สมัยแรก มองว่า ระบบสภาที่ควบคุมด้วยวิป จะผ่านกฎหมายเพื่อประชาชนได้จริงหรือไม่ ผมไม่คิดว่า สมรสเท่าเทียมจะล้มด้วยมติวิปรัฐบาล ผมจึงไปอัดคลิปประชาชนเพื่อมาเปิดในสภาฯ แต่ประธานไม่อนุญาต ผมเคารพ ทั้งนี้ขอร้องสมาชิกวันนี้หากเลือกด้วยหลักเหตุผล ยึดประชาชน ไม่มีใครมองว่าเป็นความพ่ายแพ้ของรัฐบาล เพราะเป็นชัยชนะของประชาชน”
จากนั้นเป็นการอภิปรายสรุป โดยนายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายตอนหนึ่งพร้อมน้ำตาคลอเบ้าว่า “หากสภาฯ รับหลักการร่างกฎหมาย 3 ฉบับถือว่าใจกว้าง และเป็นชัยชนะของประชาชน ไม่ใช่ของพรรคใด ทั้งนี้น้ำตาที่ไหลไม่ใช่ของธัญวัจน์ แต่เป็นน้ำตาประชาชนที่รอ ส.ส.โหวต ขอฝากว่าสมรสเท่าเทียม คือกระดุมเม็ดแรกที่จะกลัดเพื่อความเสมอภาค”
และเมื่อเวลา 16.20 น. ที่ประชุมได้ลงมติแยกทีละฉบับ ดังนี้
ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่…) พ.ศ. … หรือร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งเสนอโดยพรรคก้าวไกล สภาฯ เสียงข้างมาก 210 เสียงรับหลักการ ไม่เห็นด้วย 180 เสียง ไม่ลงคะแนน 4 เสียง
ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต พ.ศ. … ซึ่ง ครม.เสนอ มติสภาฯ เสียงข้างมาก 222 เสียงรับหลักการ ไม่เห็นด้วย 167 เสียง
ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่…) พ.ศ. … ซึ่ง ครม. เสนอ มติสภาฯ รับหลักการ ด้วยเสียง 230 เสียง ต่อ 169 เสียง
ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต พ.ศ. … ที่เสนอโดยพรรคประชาธิปัตย์ มติสภาฯ เสียงข้างมาก รับหลักการ ด้วยเสียง 251 เสียง ต่อ 124 เสียง งดออกเสียง 30 เสียง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 มิ.ย. 65)
Tags: ประชุมสภาผู้แทนราษฎร, พ.ร.บ.คู่ชีวิต, พรรคก้าวไกล, สมรสเท่าเทียม