เงินบาทเปิด 35.67 อ่อนค่าตามภูมิภาคกังวลศก.สหรัฐถดถอย คาดกรอบ 35.50-35.75

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 35.67 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 35.63 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทเปิดตลาดอ่อนค่าสุดในรอบ 5 ปีครึ่งนับตั้งแต่เดือน ม.ค.60 เนื่องจากตลาดมีความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะเข้าสู่ภาวะถดถอย จึงทำให้มีการเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเฉพาะเงินดอลลาร์สหรัฐ จึงส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ

“บาทอ่อนค่าตามสกุลเงินในภูมิภาค หลังจากที่ตลาดมีความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะถดถอย จึงเข้าไปซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ดอลลาร์”

นักบริหารเงินระบุ

สำหรับวันนี้ยังไม่มีข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่จะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทมากนัก เพราะสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันชาติสหรัฐ ดังนั้นปัจจัยหลักๆ ที่ตลาดติดตาม คือ รอรายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในวันพุธนี้ ซึ่งจะเป็นรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 65

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.50- 35.75 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (1 ก.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.60663% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.86695%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 134.96 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 135.55 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0439 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.0463 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.537 บาท/ดอลลาร์
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (1 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (1 ก.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยถ่วงตลาด โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 5.8 ดอลลาร์ หรือ 0.32% ปิดที่ 1,801.5 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2565 และปรับตัวลง 1.6% ในรอบสัปดาห์
  • ทีมนักวิเคราะห์ของบริษัท เจพีมอร์แกน คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกอาจจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 380 ดอลลาร์/บาร์เรล หากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐและยุโรป บีบให้รัสเซียตอบโต้ด้วยการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบ
  • สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า เงินเฟ้อของยูโรโซน พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 8.6% สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 8.4% หลังเผชิญแรงกดดันด้านราคาเพิ่มขึ้น และคาดว่าเงินเฟ้อยังคงไต่ระดับสูงสุดต่อเนื่องไปอีกหลายเดือน ทำให้มีแนวโน้มสูงว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ค. นี้
  • China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่าอัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนในวันนี้อ่อนค่าลง 0.0208 หยวน แตะที่ 6.7071 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน
  • องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงในยุโรป เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้น 3 เท่าในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันจำนวน 4,500 รายใน 31 ประเทศของยุโรป ทั้งนี้ WHO ระบุว่า ยุโรปเป็นศูนย์กลางการระบาดของไวรัสฝีดาษลิงทั่วโลก
  • สัปดาห์นี้ สหรัฐฯ จะรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่ FOMC เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 14-15 มิ.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนมิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดนำเข้า-ส่งออก-ดุลการค้า เดือนพ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ก.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top