“บาร์เคลย์ส” คาดสหรัฐยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าจีน ช่วยลดเงินเฟ้อได้ไม่มาก

ทีมนักวิเคราะห์ของธนาคารบาร์เคลย์ส ซึ่งรวมถึงนายจายาตี บาราดวัจเปิดเผยในรายงานวิเคราะห์ล่าสุดว่า การที่สหรัฐยกเลิกใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนนั้น จะส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อของสหรัฐและเงินหยวนของจีนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

นักวิเคราะห์กล่าวว่า หากรัฐบาลสหรัฐตัดสินใจยกเลิกภาษีดังกล่าว ผลกระทบโดยตรงมากที่สุดซึ่งจะมีต่อเงินเฟ้อสหรัฐคือ อัตราเงินเฟ้อจะลดลงในครั้งเดียวเพียง 0.3% เท่านั้น เนื่องจากสหรัฐนำเข้าสินค้าจีนไม่มากนัก

“ผลกระทบที่จะมีต่อเงินเฟ้อของสหรัฐนั้นเปรียบเหมือนแค่น้ำเพียงหยดเดียวในถัง และอาจจะไม่มีผลกระทบต่อนโยบายการเงิน การที่สหรัฐยกเลิกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าบางส่วนอาจจะทำให้เงินเฟ้อลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งคาดว่าอาจจะไม่ถึง 1 ใน 10”

นักวิเคราะห์กล่าว

“สำหรับค่าเงินหยวนของจีนนั้น ความคืบหน้าในความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนไม่ใช่แรงกระตุ้นที่สำคัญสำหรับเงินหยวน โดยเราคาดว่าหากทั้งสองฝ่ายยกเลิกมาตรการภาษี ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดจะเพิ่มขึ้นราว 9 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งหมายความว่าเงินหยวนจะแข็งค่าขึ้นประมาณ 1.8%”

การแสดงความเห็นดังกล่าวมีขึ้น หลังจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ อาจจะประกาศยกเลิกการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าบางส่วนจากจีนภายในสัปดาห์นี้ รวมทั้งประกาศมาตรการตรวจสอบการอุดหนุนภาคอุตสาหกรรมซึ่งอาจนำไปสู่การเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมจากหลายภาคส่วน ซึ่งรวมถึงธุรกิจเทคโนโลยี

แหล่งข่าวระบุว่า ปธน.ไบเดนยังไม่ได้ตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้ายเกี่ยวกับการระงับภาษีนำเข้าสินค้าจีน ซึ่งหากมีการบังคับใช้ ก็ถือเป็นย่างก้าวแรกที่สำคัญของการใช้นโยบายด้านความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ปธน.ไบเดนได้จัดการประชุมหลายครั้งร่วมกับคณะที่ปรึกษาเศรษฐกิจ เพื่อหารือเกี่ยวกับทางเลือกในการตัดสินใจที่จะยกเลิกมาตรการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนซึ่งอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้ริเริ่ม

บรรดานักเศรษฐศาสตร์กำลังอภิปรายกันว่า การยกเลิกมาตรการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนจะช่วยบรรเทาปัญหาเงินเฟ้อในสหรัฐได้หรือไม่ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์หลายคนมองว่า การผ่อนปรนหรือการยกเลิกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าทั้งหมดนั้น อาจเป็นหนึ่งในทางเลือกเพียงไม่กี่ทางที่ทำเนียบขาวจำเป็นจะต้องทำ เพื่อฉุดต้นทุนสินค้าทุกประเภทให้ลดลง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.ค. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top