หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวด์ทางเทคนิคก่อนปรับตัวลงต่อ น้ำมันร่วง-บาทอ่อนกดดัน

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ รีบาวด์ทางเทคนิคหลังร่วงลงแรง ก่อนปรับตัวลงอีก หลังวานนี้ทำนิวโลว์ คาดอาจมีแรงขายต่อเนื่อง รวมถึงค่าเงินบาทอ่อนค่า ส่งผลให้ต่างชาติยังคงขายสุทธิหุ้นไทย, ความกังวลต่อเศรษฐกิจถดถอย และราคาน้ำมันที่ร่วงลง 8% กดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงานและโรงกลั่น ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเช้านี้บวกได้เล็กน้อย ให้แนวรับไว้ที่ 1,523-1,530 จุด และแนวต้าน 1,544-1,550 จุด

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะรีบาวด์ทางเทคนิคหลังปรับตัวร่วงลงแรง ก่อนปรับตัวลงต่อ เนื่องจากเมื่อวานนี้ดัชนีฯ ได้ทำจุดต่ำสุดใหม่ ส่งผลให้มีแรงขายต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ยังมีหลายปัจจัยเข้ามากดดัน โดยเฉพาะค่าเงินบาทที่ปรับตัวอ่อนค่า ทำให้นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิหุ้นไทย

และความกังวลต่อเศรษฐกิจถดถอย หลังโควิด-19 ในจีนกลับมาเร่งตัวขึ้น อาจเกิดการล็อกดาวน์อีกครั้ง รวมถึงราคาน้ำมันดิบโลกร่วงลง 8% คาดกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงานและโรงกลั่น ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่บวกได้เล็กน้อย หลังจากปรับตัวลงหนัก

ให้แนวรับไว้ที่ 1,523-1,530 จุด และแนวต้าน 1,544-1,550 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (5 ก.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,967.82 จุด ลดลง 129.44 จุด หรือ -0.42%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,831.39 จุด เพิ่มขึ้น 6.06 จุด หรือ +0.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,322.24 จุด เพิ่มขึ้น 194.39 จุด หรือ +1.75%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,190.40 จุด ลดลง 233.07 จุด หรือ -0.88%,ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,777.64 จุด ลดลง 75.43 จุด หรือ -0.35% และ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,391.03 จุด ลดลง 13.00 จุด หรือ -0.38%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (5 ก.ค.) ที่ระดับ 1,541.30 จุด ลดลง 18.97 จุด, -1.22%
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,055.73 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 ก.ค.65
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค. (5 ก.ค.)ร่วงลง 8.93 ดอลลาร์ หรือ 8.2% ปิดที่ 99.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (5 ก.ค.) อยู่ที่ 21.24 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.99 อ่อนค่าต่อเนื่องตามภูมิภาค คาดมีโอกาสทดสอบ 36.00
  • เงินเฟ้อ มิ.ย.65 พุ่ง 7.66% ทำสถิติสูงสุดในรอบปี และสูงสุดในรอบ 13 ปีอีกครั้ง เหตุได้รับผลกระทบจากน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ก๊าซหุงต้มขึ้นราคา กลุ่มอาหารสำคัญ ทั้งหมู ไก่ ไข่ เครื่องประกอบอาหาร เพิ่มสูงขึ้น คาดแนวโน้มไตรมาส 3 ยังสูง แต่ประเมินไม่ได้ เพราะปัจจัยบวกและลบมีเพียบ ทั้งปียังยืนเป้า 4-5% จะปรับหรือไม่ ขอดูสถานการณ์ก่อน ย้ำขึ้นดอกเบี้ย ต้องรอบคอบ กระทบความเชื่อมั่นนักลงทุนฉุดดัชนีตลาดหุ้นดิ่งเกือบ 19 จุด ผสมโรงตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้น
  • สธ.วางระบบสาธารณสุขรองรับไทยเข้าสู่ระยะหลังโควิด-19 ระบาดใหญ่ สั่งทุกรพ.เตรียมรับ 3 แนวทาง หมอพอ เตียงพอ ยาและเวชภัณฑ์พอ พร้อมรับมือหลังผ่อนคลายมาตรการ เปิดประเทศ เศรษฐกิจขับเคลื่อน อาจพบติดเชื้อ Small Wave จับตา ก.ย.พีคสุด 4,000 รายต่อวัน แพทย์ศิริราชแนะศบค.กระชับสวมแมสก์พื้นที่ปิด ชง “ศบค.” ลดวันกักตัว จาก 14 วัน เหลือ 10 วัน
  • “พลังงาน” ดิ้นหาเงินกู้ เสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมัน 2 หมื่นล้าน สบน.ตรวจสอบสถานะกองทุน ชี้ติดลบ 1 แสนล้าน แบงก์เมินปล่อยกู้ แนะรอรัฐบาลเคาะแผนช่วยเติมเงินเข้ากองทุน เผยกระแสเงินสดเหลือแค่ 3.6 พันล้าน เตรียมลด จ่ายเงินชดเชยผู้ค้ามาตรา 7 เหลือเดือนละ 2 พันล้าน ‘สุพัฒนพงษ์’ ยันสำรองน้ำมัน-ก๊าซ เพียงพอรับวิกฤติ เผยสำรองน้ำมัน 60-70 วัน
  • “ททท.” จ่อของบฯจาก รัฐบาล 1,035 ล้าน จัด “บูสเตอร์ช็อต” เข็มกระตุ้น ฟื้นฟูภาคท่องเที่ยว ทำโครงการ “เราฟื้นด้วยกัน” จัดโปรโมชั่นร่วมกับสายการบินระหว่างประเทศเพิ่ม 10.8 ล้านที่นั่ง รับนักท่องเที่ยวเข้าไทย พร้อมบูสต์ตลาดไทยเที่ยวไทยเพิ่มที่นั่งเที่ยวบินในประเทศ 1 ล้านที่นั่ง เพิ่มการพักโรงแรม 1 ล้านห้อง ผู้โดยสารใช้รถทัวร์ 1 ล้านคน

หุ้นเด่นวันนี้

  • CHG (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 4.10 บาท โควิด-19 ระลอกใหม่จะมาพร้อมกับการเปิดเมือง แม้อาการจะไม่รุนแรงแต่หากขยายในวงกว้างจะทำให้อัตราการเข้ารักษาที่โรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หนุนรายได้ รพ. อีก 1 ไตรมาส
    ลักษณะของรายได้ของกลุ่ม รพ. ในครึ่งหลังปี 65 จะมาจากทั้งผู้ป่วยปกติ และโควิด-19 ในส่วนของโควิด เงินอุดหนุนจากรัฐ (สปสช.) จะน้อยลงแต่จะได้ค่ารักษาจากเงินสดและประกันสังคม Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 ที่ 2.56 พัน ลบ. และ 1.36 พัน ลบ. -39%YoY, -47%YoY ตามลำดับ
  • GPSC (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า IAA Consensus 72 บาท YTD ราคาหุ้นร่วงหนักสะท้อนต้นทุนก๊าซที่เพิ่มขึ้นไปแล้ว วันนี้น้ำมันดิบร่วงแรงจึงเป็น Sentiment บวก ประกอบกับมีประเด็นเรื่องการปรับขึ้นค่า Ft ให้เก็งกำไรเป็นบวกกับผู้ประกอบการที่มีสัดส่วนของโรงไฟฟ้า SPP สูง
  • CBG (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 117.50 บาท แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/65 คาดกำไรฟื้นตัว QoQ จากปัจจัยฤดูกาลที่เป็น High Season ของธุรกิจเครื่องดื่ม แต่จะยังลดลง YoY แม้รายได้จะเติบโตได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศจะเติบโต แต่ถูกกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ที่ยังทรงตัวระดับสูง อย่างไรก็ตามคาดว่าต้นทุนอลูมิเนียมในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวลดลงเนื่องจากจีนเพิ่มกำลังผลิต เมื่อรวมกับต้นทุนพลังงานที่มีโอกาสปรับลดลงจากความกังวลเรื่อง Recession จะทำให้เห็นอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทขยายตัว QoQ ต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top