โพล ส.อ.ท. ชี้ราคาพลังงานดันต้นทุนการผลิตเพิ่ม ยอมหั่นกำไรรักษายอดขาย

นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI Poll หัวข้อ “ภาคอุตสาหกรรม จะรับมือกับวิกฤตพลังงานแพงอย่างไร” ซึ่งเป็นการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) จำนวน 165 คน ครอบคลุมผู้บริหารจาก 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด

ผลการสำรวจพบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท. มองว่าจากวิกฤตความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลทำให้ภาคอุตสาหกรรมต้องแบกรับภาระต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นกว่า 20% สวนทางกับการปรับราคาขายสินค้าและบริการในช่วงที่ผ่านมา ที่มีการปรับเพิ่มขึ้นได้น้อยกว่า 10% เนื่องจากต้องการรักษายอดขาย ขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาด รวมทั้งการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมราคาสินค้าของรัฐ

ทั้งนี้ ผู้บริหาร ส.อ.ท. คาดว่าแนวโน้มราคาน้ำมันดิบโลกช่วงครึ่งหลังของปี 65 จะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับ 120-140 ดอลลาร์ต่อบาเรล จากภาวะสงครามที่ยืดเยื้อ ประกอบกับมาตรการตอบโต้ระหว่างชาติตะวันตกและรัสเซียที่มีความเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะการที่สหภาพยุโรป (EU) มีมติระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย 90% ภายในสิ้นปีนี้

ดังนั้น ผู้บริหาร ส.อ.ท. จึงเสนอขอให้ภาครัฐพิจารณาขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร ที่กำลังจะสิ้นสุดในวันที่ 20 ก.ค. 65 ออกไปอีก 2-3 เดือน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และช่วยลดภาระต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการ

ส่วนมาตรการแก้ไขปัญหาวิกฤตพลังงานในระยะยาว ภาครัฐควรมีการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกให้เกิดการใช้พลังงานหมุนเวียนในภาคธุรกิจและภาคประชาชน สนับสนุนให้เกิดการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพ และลดการใช้พลังงานในภาคการผลิต ควบคู่ไปกับการทบทวนโครงสร้างราคาพลังงานให้เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

นอกจากนี้ ยังแนะนำให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม เร่งปรับตัวรับมือกับวิกฤตพลังงานด้วยการลงทุนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนใช้เองภายในโรงงาน ปรับปรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน รวมทั้งนำระบบการบริหารจัดการพลังงาน (Energy Management System: EMS) มาใช้และปรับแผนการผลิต หรือโลจิสติกส์เพื่อลดต้นทุนพลังงานในช่วงนี้

สำหรับผลการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) สรุปได้ดังนี้

1. ภาวะราคาพลังงานแพงในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตอย่างไร

อันดับที่ 1 : ต้นทุนเพิ่มขึ้น 20% ที่ 38.8%

อันดับที่ 2 : ต้นทุนเพิ่มขึ้น 10% ที่ 30.3%

อันดับที่ 3 : ต้นทุนเพิ่มขึ้น 30% ที่ 23.0%

อันดับที่ 4 : ต้นทุนเพิ่มขึ้น 40% ที่ 7.9%

2. ผลกระทบของต้นทุนราคาพลังงานและวัตถุดิบแพง ทำให้อุตสาหกรรมต้องปรับราคาขายสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นแล้วเท่าใด เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงต้นปี 65

อันดับที่ 1 : ปรับราคาเพิ่มขึ้น น้อยกว่า 10% ที่ 44.9%

อันดับที่ 2 : ปรับราคาเพิ่มขึ้น 10-20% ที่ 38.8%

อันดับที่ 3 : ปรับราคาเพิ่มขึ้น 20-30% ที่ 12.7%

อันดับที่ 4 : ปรับราคาเพิ่มขึ้น มากกว่า 30% ที่ 3.6%

3. แนวทางการดำเนินงานในเรื่องใด ที่คิดว่าจะช่วยลดผลกระทบจากราคาพลังงานแพงในช่วงนี้

อันดับที่ 1 : ขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร 62.4%

อันดับที่ 2 : ขอความร่วมมือโรงกลั่นฯ ลดกำไรจากค่าการกลั่น และนำมาช่วยลดราคาน้ำมันสำเร็จรูป 60.6%

อันดับที่ 3 : รณรงค์และดำเนินโครงการให้ทุกภาคส่วนประหยัดและลดการใช้พลังงาน 60.0%

อันดับที่ 4 : เจรจานำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย 55.2%

4. ภาครัฐควรดำเนินการเพื่อป้องกันปัญหาวิกฤตพลังงานในระยะยาวอย่างไร

อันดับที่ 1 : ส่งเสริมให้เกิดการใช้พลังงานหมุนเวียนในภาคธุรกิจและภาคประชาชน 76.4%

อันดับที่ 2 : สนับสนุนการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน 73.9%

อันดับที่ 3 : ทบทวนโครงสร้างราคาพลังงานให้เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย 61.8%

อันดับที่ 4 : ผลักดันการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในภาคขนส่งเต็มรูปแบบ 58.8%

5. ภาคอุตสาหกรรมควรมีการปรับตัวรับมือกับราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างไร

อันดับที่ 1 : การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนใช้ภายในโรงงาน 69.7%

อันดับที่ 2 : ปรับปรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน 67.9%

อันดับที่ 3 : นำระบบการบริหารจัดการพลังงาน (EMS) มาใช้และปรับแผนการผลิต/โลจิสติกส์เพื่อลดต้นทุนพลังงาน 60.0%

อันดับที่ 4 : ส่งเสริมการใช้การขนส่งหลายรูปแบบ (Multimodal Transport) เช่น ระบบราง, เรือ และทางรถ 50.9%

6. คาดการณ์แนวโน้มราคาน้ำมันดิบโลกช่วงครึ่งปีหลังของปี 65

อันดับที่ 1 : 120-140 ดอลลาร์ต่อบาเรล 44.3%

อันดับที่ 2 : 100-120 ดอลลาร์ต่อบาเรล 33.3%

อันดับที่ 3 : มากกว่า 140 ดอลลาร์ต่อบาเรล 18.8%

อันดับที่ 4 : ต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาเรล 3.6%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top