นายกฯ ผุดกลยุทธ์ 3 แกนสร้างอนาคต โครงสร้างพื้นฐาน-ชูอุต EV-พลิกโฉมภาคธนาคาร

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ออกแถลงการณ์ถึงกลยุทธ์ 3 แกนสร้างอนาคตที่จะมายกระดับความมั่งคั่งรุ่งเรืองให้กับประชาชน โดยระบุว่า ที่ผ่านมา หลายรัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศในช่วงระยะสั้นๆ ได้ดำเนินนโยบายระยะสั้น แก้ปัญหาความยากจนเฉพาะหน้า หรือมีโครงการลดแลกแจกแถมต่างๆ บางโครงการเป็นสิ่งที่ควรทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามวิกฤติ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน แต่โครงการแบบนั้นไม่ใช่วิธีที่จะแก้ปัญหาความยากจนได้อย่างยั่งยืน และวิธีการเหล่านั้นไม่ทำให้ใครรวยขึ้นมาได้

ดังนั้น รัฐบาลจึงตั้งใจขับเคลื่อนกลยุทธ์ภาพใหญ่ที่มี 3 แกนหลักที่จะมายกระดับความรุ่งเรืองของประเทศ เป็น 3 แกนหลักที่กำลังจะเสร็จ และกำลังจะพร้อมที่จะช่วยเราทุกคนได้ในอนาคตอันใกล้

สำหรับแกนที่ 1: คือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ ที่ใหญ่ที่สุด และบูรณาการมากที่สุด โครงการสร้างทางรถไฟ ถนน สนามบิน หรือท่าเรือ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับความรุ่งเรืองมั่งคั่งของทุกคน โครงการที่ต้องใช้เวลาก่อสร้างยาวนานหลายปี และตอนนี้ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว

เมื่อโครงการทางรถไฟ โครงการรถไฟความเร็วสูง ถนน ท่าเรือ และสนามบินต่างๆ เกิดขึ้นจริง โครงการเหล่านั้นจะเชื่อมต่อกัน เหมือนต่อจิ๊กซอว์ภาพใหญ่ได้สำเร็จ และนั่นคือเวลาที่เราจะคาดหวังถึงความเจริญรุ่งเรืองอย่างก้าวกระโดดของประเทศเราได้ และเมื่อโครงการต่างๆ เหล่านั้นเชื่อมต่อกัน จะเป็นเหมือนสะพานเชื่อม เป็นเครื่องมือให้ทุกคนเข้าถึงโอกาสที่จะสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเอง และประเทศได้

แกนที่ 2: คือแกนที่เกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรมทั้งหมด ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องเชื่อมโยงต่างๆ เป็นภาคอุตสาหกรรมที่หล่อเลี้ยงเชื่อมต่อไปถึงธุรกิจขนาดใหญ่ และธุรกิจขนาดเล็กอีกมากมาย ตลอดจนดึงเงินมหาศาลให้ไหลเข้าประเทศไทย ผ่านการส่งออกต่างๆ เป็นตัวขับเคลื่อนความมั่งคั่งรุ่งเรืองของไทย

แต่วันนี้ อุตสาหกรรมนี้ กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงครั้งใหญ่ เพราะการเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเกิดขึ้นทั่วโลก ดังนั้น เราต้องเดินหน้าให้เร็ว และเร็วกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ที่กำลังพยายามจะใช้โอกาสนี้ดึงเอาอุตสาหกรรมยานยนต์ออกไปจากประเทศไทย

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่สำคัญของโลก เราต้องล็อกผู้ผลิตยานยนต์ทั่วโลกให้อยู่ในประเทศไทย และต้องช่วยให้เรื่องต่างๆ ง่ายขึ้นในการที่ผู้ผลิตจะลงทุนเพิ่ม และขยายธุรกิจในประเทศไทย

หากทำสำเร็จ เส้นทางนี้จะเป็นรากฐานที่สำคัญที่เกื้อหนุนหล่อเลี้ยงอุตสาหกรรมต่างๆ และประเทศไทยให้มั่งคั่งต่อไปได้ อีกเป็น 20-30 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ อีกส่วนหนึ่งของภารกิจในแกนหลักที่ 2 คือ จะต้องทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายในการใช้รถยนต์ไฟฟ้า มีราคาที่ถูกลง สำหรับคนไทยทุกคน โดยจะมีการให้รายละเอียดเพิ่มเติม และความคืบหน้า เกี่ยวกับกลยุทธ์แกนที่ 2 นี้ประมาณช่วงเดือนหน้า

“วันนี้ เราเดินมาได้ไกลแล้ว ด้วยการทำงานอย่างรวดเร็ว และบูรณาการหลายหน่วยงาน จนผู้ผลิตยานยนต์ระดับโลกหลายราย แสดงเจตนารมณ์ว่าจะเดินหน้าตั้งโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่เราจะต้องทำ ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า เพื่อให้ได้ข้อสรุปกับผู้ผลิตยานยนต์ต่างๆ เหล่านั้น”

แกนที่ 3: คือ เรื่องเกี่ยวกับภาคการธนาคารของเรา และวิธีการทำงานของธนาคาร ที่ต้องหาทางที่จะทำให้เงินทุนที่จำเป็น ไปถึงมือเจ้าของกิจการเล็กๆ และกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งคนกลุ่มนี้จะเป็นพลังที่สำคัญมากต่อความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเราควรต้องส่งเสริม

การเปลี่ยนแปลงนี้ คือหนทางสำคัญที่จะกระจายความมั่งคั่งร่ำรวย จากคนที่รวยอยู่แล้วที่สามารถกู้เงินได้ และทำให้รวยยิ่งขึ้น กระจายออกไปสู่คนที่เพิ่งเริ่มต้นทำมาค้าขายหรือทำธุรกิจ และคนที่ไม่มีทรัพย์สินค้ำประกันเงินกู้ ให้สามารถกู้เงินเพื่อธุรกิจค้าขายได้ และเดินหน้าไปสู่ความร่ำรวยได้

ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับการผลักดันให้ภาคการเงินของประเทศไทยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และทำให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินต่างๆ ได้ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น

“ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกที่แย่ลงทุกวัน จากสงครามรัสเซีย-ยูเครน บอกเราว่า เราต้องเดินหน้าให้เร็วยิ่งขึ้น ผมต้องการเห็นธนาคารต่างๆ ในประเทศไทย และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เร่งเครื่อง กระบวนการต่างๆ เหล่านี้ เพื่อทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงให้ได้ และเป็นประโยชน์สำหรับประชาชนทุกคน ผมรู้ว่า มีหลายๆ ธนาคารกำลังมองและทำเรื่องที่ผมกล่าวอยู่นี้ ผมขอให้ธนาคารเหล่านั้น เดินหน้าให้เร็วขึ้น และขอให้เป็นพลังที่สำคัญมากยิ่งขึ้น สำหรับสิ่งดีๆ ของประเทศ และช่วยยกระดับประเทศไทยไปสู่อนาคตที่ดี ที่เราสมควรจะมี”

พร้อมยืนยันว่า จะขับเคลื่อนรัฐบาล ให้ทำโครงสร้างพื้นฐานที่ดีที่สุดให้สำเร็จ ช่วยทำภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ให้แข็งแรง และช่วยภาคการธนาคารให้ทำงานอย่างสอดคล้องและตอบโจทย์ยุคสมัยใหม่ เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสที่จะสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองได้

“ด้วยสิ่งต่างๆ เหล่านี้ เราจะสามารถสร้างความมั่งคั่งและรุ่งเรืองได้ ในแบบที่กระจายไปทีเดียว ทั่วไปทั้งหมด และนั่นคือหนทางเดียว ที่เราสามารถเอาชนะปัญหาปากท้องการหาเลี้ยงตัวเอง ที่มาบั่นทอนเราอยู่เรื่อยๆ เสมอๆ ได้ เชื่อว่าเราทำได้ครับ และเราจะได้เห็นการผลิดอกออกผล ในเวลาไม่เกิน 2 ปีข้างหน้า”

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top