ออโรร่า ดีไซน์ ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 334 ล้านหุ้น-เข้า SET

บมจ.ออโรร่า ดีไซน์ (AURA) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 334,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขาย มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาท/หุ้น และมูลค่าราคาตามบัญชี (Book Value) ณ วันที่ 31 มี.ค. 65 ที่ 2.65 บาท/หุ้น และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) โดยมี บล.กสิรกไทย เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

สำหรับวัตถุประสงค์การใช้เงินจากการเสนอขาย IPO ในครั้งนี้ยังไม่ได้มีการระบุในไฟลิ่ง อย่างไรก็ตาม บริษัทระบุวา ณ วันที่ 31 มี.ค. 65 บริษัท และบริษัทย่อยใช้สินเชื่อกับธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เป็นวงเงินกู้ยืมระยะสั้น 913 ล้านบาท ซึ่งมียอดคงค้างจำนวน 880.8 ล้านบาท และวงเงินกู้ยืมระยะยาว 880 ล้านบาท ซึ่งมียอดคงค้าง 612 ล้านบาท

AURA ประกอบธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ เครื่องประดับเพชรและอัญมณี และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นที่มีบริการแบบครบวงจร (One Stop Service) ซึ่งรวมถึงการบริการขาย รับซื้อคืน ขายฝากสินค้า และบริการหลังการขาย แบ่งกลุ่มธุรกิจหลักได้ดังนี้

(1) ธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ เครื่องประดับเพชร และอัญมณี และของขวัญที่ทำมาจากทองคำเป็นหลัก โดยมีผลิตภัณฑ์หลัก 3 ประเภท Modern Gold คือ ผลิตภัณฑ์ทองรูปพรรณที่มีส่วนประกอบของทองคำบริสุทธิ์ 96.5% ได้แก่ สร้อยคอ แหวน สร้อยข้อมือ ต่างหู ทองแผ่น เป็นต้น, Design Gold มีสินค้า 4 กลุ่ม ได้แก่ 1) พระเครื่องเลี่ยมทอง 2) สินค้าเสริมสิริมงคล เช่น สร้อยมือปีเซี่ยะ แผ่นทองมงคล จี้ราศี เป็นต้น 3) เครื่องประดับ และ 4) สินค้ากลุ่มของขวัญ เช่น กรอบรูปงานหัตถศิลป์ทองคำ เป็นต้น, Diamond ผลิตภัณฑ์เครื่องประดับเพชรแท้ เช่น แหวนเพชร สร้อยคอเพชร ต่างหูเพชร สร้อยข้อมือเพชร จี้เพชร เป็นต้น

(2) ธุรกิจขายฝากทองคำและเครื่องประดับที่มีทองคำและเพชรเป็นส่วนประกอบ โดยลูกค้าสามารถไถ่ถอนทรัพย์ที่นำมาขายฝากได้ภายในระยะเวลาที่ตกลงกัน ปัจจุบันบริษัทฯ คิดอัตราดอกเบี้ยรับขายฝากตามจำนวนวันขายฝาก ในอัตราสูงสุดไม่เกิน 1.25% ต่อเดือน โดยมีค่าบริการเริ่มต้น 40 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)

บริษัทมุ่งสู่การเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในใจลูกค้าในธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ และเครื่องประดับและของขวัญที่ทำมาจากทองคำ โดยการสร้างความพึงพอใจในสินค้าจากลูกค้า ทั้งในรูปแบบดีไซน์ ความสวยงาม การบริการทั้งก่อนและหลังการขาย รวมทั้งการขยายพอร์ตโฟลิโอของแบรนด์สินค้าเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่มในทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย โดยในปี 64 และไตรมาส 1/65 มี Ticket size ของลูกค้าเฉลี่ยประมาณ 30,000 บาทต่อราย

บริษัทมีสาขาหน้าร้านภายใต้การดำเนินงานของบริษัทฯ จำนวนทั้งสิ้น 5 แบรนด์ ดังนี้ AURORA, เซ่งเฮง, ของขวัญ by Aurora, AURORA Diamond และ ทองมาเงินไป โดยมีจำนวนสาขาทั้งหมด 255 สาขา แบ่งเป็นในกรุงเทพฯและปริมณฑล 142 สาขา และต่างจังหวัด 113 สาขา

บริษัทมีช่องทางการจำหน่ายแบบออนไลน์ (E-Commerce) ผ่านทางเว็บไซต์ www.aurora.co.th และยังขยายช่องทางแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ (Marketplace) ได้แก่ Shopee Lazada และ JD central รวมทั้ง Line MyShop Line OpenChat และ Facebook ด้วย ทั้งนี้บริษัทมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการขายผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายแบบออนไลน์ เป็น 14% ภายในปี 67

ปัจจุบัน บริษัทมีทุนจดทะเบียน 1,344 ล้านบาท เป็นทุนชำระแล้ว 1,000 ล้านบาท หลังเสนอขายหุ้น IPO จะทำให้มีทุนชำระแล้วเต็มจำนวน โครงสร้างผู้ถือหุ้น ประกอบด้วย บริษัท ธัม เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 430 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 43% หลังเสนอขายหุ้น IPO จะลดสัดส่วนลงมาที่ 32.23% ที่เหลือส่วนใหญ่ถือโดยบุคคลในตระกูลศรีรุ่งธรรม 39.7% จะลดลงเหลือ 29.76%

ทั้งนี้ ธัม เอ็นเตอร์ไพรส์ ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) และถือหุ้นโดยกลุ่มครอบครัวศรีรุ่งธรรม

ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี (62-64) บริษัทมีรายได้รวมเท่ากับ 17,331.81 ล้านบาท 19,430.36 ล้านบาท และ 22,255.55 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่มีกำไรสุทธิ เท่ากับ 515.12 ล้านบาท 734.14 ล้านบาท และ 591.03 ล้านบาท ตามลำดับ หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 2.97% 3.77% และ 2.65% ตามลำดับ

งวดไตรมาส 1/65 มีรายได้ 7,895.3 ล้านบาท กำไรสุทธิ 239.75 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 64 บริษัทมีรายได้รวม 6,466.11 ล้านบาท กำไรสุทธิ 96.53 ล้านบาท สาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของกำไรขั้นต้นจากการขายผลิตภัณฑ์ Modern Gold

บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ ภายหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และการจัดสรรทุนสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทตามที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมาย และข้อบังคับของบริษัทฯ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top