เมคทูวิน โฮลดิ้ง ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 87 ล้านหุ้น-เข้า mai ใช้ในธุรกิจจักรยานยนต์ EV

บมจ.เมคทูวิน โฮลดิ้ง (MTW) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 87,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1.00 บาท/หุ้น และมูลค่าทางบัญชี 1.31 บาท/หุ้น และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมี บริษัท พาย แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการระดมทุนครั้งนี้เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการจักรยานยนต์ไฟฟ้า บริษัทมีแผนในการลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตในช่วงปี 65-68 เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจจักรยานยนต์ไฟฟ้า คาดว่าจะมีการลงทุนรวม 500-550 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นที่ดิน 250-300 ล้านบาท อาคารสำนักงานและโรงงาน 150 ล้านบาท และเครื่องจักรอุปกรณ์ 100 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถสรุปสถานที่ตั้งได้ในช่วงไตรมาส 4/65 และอยู่ระหว่างการติดต่อกับสถาบันการเงินเพื่อขอวงเงินกู้ยืม

MTW ก่อตั้งในปี 39 ระยะแรกดำเนินการในรูปแบบของธุรกิจครอบครัวในนาม “ห้างหุ้นส่วนจำกัด เมคทูวิน” โดยนายกฤตเมธ ตั้งพิชญโพธิวัฒน์ (ชื่อเดิมนายชุน เฉิน) ปัจจุบัน ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูป และบริษัทถือหุ้นในบริษัท เดโก้ กรีน เอนเนอร์จี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ร่วมกับกลุ่มชาวไต้หวัน ซึ่ง MTW ถือหุ้น 85%

ส่วนสินค้าประเภทเสื้อผ้าสำเร็จรูปผลิตและจำหน่ายภายใต้ตราสินค้าซึ่งจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัท ได้แก่ “Anoko” “Noble” “Over Bick’C” และ “S Sport” และตราสินค้าอื่นๆ เช่น “SuperKool” “Evolution” ลักษณะการจำหน่ายสินค้าของบริษัทแบ่งเป็นการขายปลีก (1-5 ตัว) และขายส่ง (6 ตัวขึ้นไป) โดยการขายในราคาปลีกจะเป็นการขายผ่านช่องทางหน้าร้านสาขาทั้ง 3 สาขาของบริษัทเท่านั้น ส่วนการขายส่งสามารถขายได้ทั้งผ่านหน้าร้านสาขาและโรงงาน ปัจจุบันหน้าร้านสาขาของบริษัทมีทั้งหมด 3 สาขา ซึ่งมีทำเลที่ตั้งอยู่ในแหล่งที่เป็นแหล่งซื้อขายปลีก-ส่งเสื้อผ้าสำเร็จรูปหลักของประเทศไทย และเป็นแหล่งซื้อ-ขายของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัท

ส่วนสินค้าประเภทรถจักรยานและจักรยานยนต์ไฟฟ้าภายใต้เครื่องหมายการค้า DECO แบ่งเป็น 1.แบบจักรยานไฟฟ้า (Electric Bicycles) ขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้าไม่เกิน 1,000 W 2.รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบบครอบครัว (Classic Electric Motorcycles) มีรุ่นเครื่องยนต์น้อยกว่า 1,000 W และมากกว่า 1,000 W 3.รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบบสปอร์ต (Sport Electric Motorcycles) ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าตั้งแต่ 2,000 W และ 4.รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ (Commercial Electric Motorcycles) ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าตั้งแต่ 3,000 W ซึ่งบริษัทมีตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ากระจายอยู่ทั่วประเทศ 91 ราย

กลุ่มบริษัทผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูป และธุรกิจผลิตและจำหน่ายจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยมีกำลังการผลิตเสื้อสำเร็จรูปรวม 1.8 ล้านตัวต่อปี และมีกำลังการผลิตจักรยานยนต์ไฟฟ้ารวม 11,500 คันต่อปี

ณ วันที่ 30 มิ.ย.65 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 337 ล้านบาท และมีทุนชำระแล้ว 250 ล้านบาท โครงสร้างผู้ถือหุ้น มีนายกฤตเมธ ตั้งพิชญโพธิวัฒน์ ถือหุ้น 176,976,800 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 70.79% หลังการเสนอขายหุ้น IPO จะลดสัดส่วนเหลือ 52.52% และ น.ส.ชื่นจิตร ตั้งพิชญโพธิวัฒน์ ถือหุ้น 71,598,800 หุ้น คิดเป็น 28.64% จะลดเหลือ 21.25%

ผลประกอบการช่วงปี 62-64 บริษัทมีรายได้จากการขาย 156.76 ล้านบาท 173.92 ล้านบาท และ 213.07 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิ 13.89 ล้านบาท 17.35 ล้านบาท และ 26.54 ล้านบาท

ไตรมาส 1/65 บริษัทมีรายได้จากการขาย 51.56 ล้านบาท จากไตรมาส 1/64 มีรายได้จากการขาย 48.69 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5.80 ล้านบาท เทียบกับ 4.59 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจเสื้อผ้าสำเร็จรูป 40.81% และจักรยานยนต์ไฟฟ้า 58.59% ที่เหลือเป็นรายได้อื่น เช่น ค่าเช่าตู้น้ำอัตโนมัติ รายได้จากการขายเสื้อมีตำหนิ รายได้จากการขายทรัพย์สิน ดอกเบี้ยรับ เป็นต้น

ณ วันที่ 31 มี.ค.65 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 392.79 ล้านบาท หนี้สิน 65.94 ล้านบาท และส่วนผู้ถือหุ้น 326.85 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับงบการเงินเฉพาะกิจการ และหลังหักเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายและบริษัทได้กำหนดไว้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ก.ค. 65)

Tags: , , , , ,
Back to Top