หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นต่อหลังยืนเหนือ 1,560 จุด-น้ำมันบวกหนุน

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ ปรับตัวขึ้นต่อหลังวานนี้ดัชนีสามารถยืนเหนือระดับ 1,560 จุดได้ จากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติและกองทุนในประเทศที่เข้ามาหนุน อีกทั้งราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น 2% คาดหนุนแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเคลื่อนไหวทั้งในด้านบวกและลบ ให้กรอบแนวรับที่ 1,550-1,555 จุด และแนวต้าน 1,568-1,572 จุด

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้ต่อ หลังวานนี้ได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติและกองทุนในประเทศ ส่งผลให้ดัชนีปิดตลาดสามารถยืนเหนือระดับ 1,560 จุด ได้ ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐก็สามารถปิดบวกได้ โดยนักลงทุนยังคงรอดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 26 และ 27 ก.ค.นี้ รวมถึงราคาน้ำมันดิบก็ปรับตัวขึ้น 2% ช่วยหนุนแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่อง

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในด้านบวกและลบ รอดูการประชุมเฟด

ให้กรอบแนวรับที่ 1,550-1,555 จุด และแนวต้าน 1,568-1,572 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (25 ก.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด 31,990.04 จุด เพิ่มขึ้น 90.75 จุด หรือ +0.28%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,966.84 จุด เพิ่มขึ้น 5.21 จุด หรือ +0.13% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,782.67 จุด ลดลง 51.45 จุด หรือ -0.43%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,682.20 จุด ลดลง 17.05 จุด หรือ -0.06%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,676.68 จุด เพิ่มขึ้น 113.74 จุด หรือ +0.55% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,254.19 จุด เพิ่มขึ้น 3.80 จุด หรือ +0.12%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 ก.ค.34.) ที่ระดับ 1,560.31 จุด เพิ่มขึ้น 7.58 จุด, +0.49%

– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,558.91 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ก.ค.65

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย. (25 ก.ค.)เพิ่มขึ้น 2 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 96.70 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 ก.ค.) อยู่ที่ 0.83 ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 36.73 อ่อนค่าจากวานนี้ จับตาประชุมเฟด คาดกรอบ 36.60-36.80

– ส.อ.ท. เตรียมปรับเป้ายอดผลิตรถปีนี้ จาก 1.8 ล้านคัน เหลือ 1.7 ล้านคัน ชี้สงครามยูเครนรวมทั้งการล็อกดาวน์จีน ซ้ำเติมปัญหาขาดแคลนชิพ ผู้ผลิตรถยนต์กังวล ปัจจัยเงินเฟ้อฉุดกำลังซื้อในครึ่งปีหลัง เผย มิ.ย. ยอดส่งออกลดลง 11% ยอดขายในประเทศโต 20.69% ส่วนยอดจดทะเบียนใหม่รถอีวีพุ่ง 877 คัน เพิ่มขึ้น 431.52% คาดยอดขายรถอีวีทั้งปีมีโอกาสแตะ 10,000 คัน

– ก.ล.ต.รุดหารือ “ดีเอสไอ-ปอศ.” หาช่องกฎหมายเอาผิด “ซิปเม็กซ์” ด้านผู้เสียหายบุกร้องตำรวจไซเบอร์ เบื้องต้นพบกว่า 800 ราย มูลค่ากว่า 678 ล้าน คาดยอดพุ่งหมื่นราย ขณะที่ “เอกลาภ” เร่ง ปิดดีลขายกิจการ หลังเซ็นเอ็มโอยู เผยทำดิว ดิลิเจนซ์

– กบน.เคาะตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไว้ที่ลิตรละ 34.94 บาทต่ออีก 1 สัปดาห์ หรือถึงสิ้นเดือน ก.ค. เป็นการตรึงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 เพื่อดูแลค่าครองชีพประชาชนและสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เหตุยังคงต้องควักอุดหนุนกว่า 2 บาทต่อลิตร ล่าสุดติดลบกว่า 1.15 แสนล้านบาท “กุลิศ” แย้มเร็วๆ นี้ เล็งออกมาตรการกระตุ้นประหยัดพลังงานในทุกภาคส่วน เผยเบนซินลดอีก 60 สตางค์ต่อลิตรวันนี้

– กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เผย BA.4 และ BA.5 แพร่เร็วและรุนแรงกว่า BA.2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบเพิ่มขึ้นเป็น 75% ส่วน BA.2.75 ทั่วโลกยังเพิ่มไม่มาก เตรียมทำน้ำยาเฉพาะใช้ตรวจ คาดเริ่มได้สัปดาห์หน้า ย้ำหากแพร่เร็ว อาจต้องมีมาตรการบางอย่าง ระบุ BA.5 หลบวัคซีนทุกสูตรได้ดี จึงต้องเร่งฉีดเข็มกระตุ้น เพื่อสร้างภูมิ ชี้ติดสายพันธุ์อื่นแล้ว หายไม่ถึง 2-3 สัปดาห์ เจอ BA.5 ก็ติดซ้ำได้ “หมอมนูญ” ชี้โควิด-19 จะอยู่ตลอดไป แถมใช้เวลากลายพันธุ์สั้นลง 3-4 เดือน และแพร่ไว ติดง่ายกว่าเดิม “หมอธีระ” ชี้ BA.5 ระบาดเร็วกว่าเดิม 50% ติดเชื้อซ้ำได้ 40%


หุ้นเด่นวันนี้

– BANPU (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า 17 บาท คาดมีกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ที่ 8.6 พันล้านบาท ลดลง 16%qoq แต่เพิ่มขึ้น 5 เท่าตัวเมื่อเทียบ yoy และหากตัดกำไรพิเศษจากการขาย Sunseap ในไตรมาส 1/65 จะมีกำไรเพิ่มขึ้น 64%qoq และวันนี้ยังได้ Sentiment บวกจากราคาก๊าซในสหรัฐที่กลับมาพุ่งแรง

– ONEE (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 10.40 บาท กระแส Thai Voice Thailand All star Season ค่อนข้างร้อนแรงยอด View บน YouTube ทะลุ 27.59 ล้านใน 2 สัปดาห์ คาดเม็ดเงินโฆษณาเพิ่มขึ้น จำนวนผู้ใช้งาน Application เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ยอดดาวน์โหลดเกิน 10 ล้านครั้งภายใน 7 เดือน ยอดสมาชิกแตะ 7 ล้านราย เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ในอนาคต (หากมี Exclusive Content ในอนาคต) Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 เฉลี่ยที่ 1 พัน ลบ. และ 1.26 พัน ลบ. +26%YoY และ +21%YoY ตามลำดับ

– EPG (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 13.90 บาท ได้ Sentiment บวกจากราคาน้ำมันปรับลง บริษัทตั้งเป้ายอดขายงวดปี 65/66 โต 12-15% อยู่ที่ 1.35 หมื่นล้านบาท จากเศรษฐกิจฟื้นหลังโควิดคลี่คลาย ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น Aeroflex เป้ายอดขายโต 10-12% รักษาส่วนแบ่งตลาดสินค้าเกรดพรีเมี่ยมทั้งในประเทศ-ต่างประเทศ ขยายกำลังผลิตในสหรัฐช่วยลดต้นทุนผลิตและแรงงาน ส่วนธุรกิจชิ้นส่วอุปนกรณ์และตกแต่งยานยนต์ Aeroklas เป้ายอดขายโต 20-23% รับประโยชน์อุตฯยานยนต์ฟื้น ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก EPP เป้ายอดขายโต 5-8% เน้นการปรับปรุงการผลิตและสร้างการรับรู้ของแบรนด์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ก.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top