หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์รับแรงหนุนกลุ่มแบงก์ แต่พลังงาน-โรงกลั่นกดดัน

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวไซด์เวย์รับแรงหนุนกลุ่มได้รับประโยชน์จากกลุ่มแบงก์ หลังคาด กนง.เตรียมปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 10 ส.ค. แต่จะมีแรงกดดันจากกลุ่มพลังงานและโรงกลั่นจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงต่อเนื่อง พร้อมให้แนวรับที่ 1,585-1,592 จุด และ แนวต้าน 1,605-1,610 จุด

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวไซด์เวย์โดยได้รับปัจจัยหนุนจากกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากกลุ่มแบงก์ ที่จะได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 10 ส.ค. นี้

แต่อย่างไรก็ตามจะมีแรงขายออกมาจากกลุ่มพลังงานและโรงกลั่น ที่ได้รับแรงกดดันดันจากราคาน้ำมันที่ยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง

พร้อมให้แนวรับที่ 1,585-1,592 จุด และ แนวต้าน 1,605-1,610 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (5 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด 32,803.47 จุด เพิ่มขึ้น 76.65 จุด หรือ +0.23%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,145.19 จุด ลดลง 6.75 จุด หรือ -0.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,657.56 จุด ลดลง 63.02 จุด หรือ -0.50%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,050.09 จุด ลดลง 125.78 จุด หรือ -0.44%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,065.35 จุด ลดลง 136.59 จุด หรือ -0.68% และดัชนี SSE Composite ตลาด

หุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,218.85 จุด ลดลง 8.18 จุด หรือ -0.25%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (5 ส.ค.65.) ที่ระดับ 1,601.09 จุด เพิ่มขึ้น 2.34 จุด (+0.15%)

– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 837.44 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 ส.ค..65

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.(5 ส.ค.) เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 89.01 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(5 ส.ค.) อยู่ที่ 5.75 ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 35.77 อ่อนค่าสอดคล้องภูมิภาคหลังดอลลาร์แข็งค่า จับตาประชุมกนง.สัปดาห์นี้

– สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เผย 7 เดือนแรกปีนี้ “เอกชน” เร่งออกหุ้นกู้ ล็อกต้นทุนหนีดอกเบี้ย “ขาขึ้น” แล้วกว่า 7.41 แสนล้าน เผยช่วงที่เหลือปีนี้คาดยังขอ ยื่นไฟลิ่งต่อเนื่อง จากที่รอขาย-อนุมัติถึง 1.14 แสนล้าน นำโดย GULF-CPF-SCCC มั่นใจทั้งปีนี้ยอดทะลุ 1 ล้านล้าน เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน

– อสังหาฯ หวั่นนโยบายดอกขาขึ้น ทุบกำลังซื้อร่วง “อนันดา” ชี้ขยับ 1% กระทบภาระผ่อน-ต้นทุนเพิ่ม 10% แนะทยอยปรับ 0.25% สกัดภาวะฟื้นตัวหยุดชะงัก พร้อมชู Economies of Speed บริหารจัดการต้นทุน “พฤกษา” วอนขึ้นดอกเบี้ย แบบค่อยเป็นค่อยไป ป้องกันเศรษฐกิจสะดุด เสนาฯเผยเทรนด์บ้านแพงขึ้น ความสามารถซื้อลดลงมุ่งลดเสี่ยงเจาะตรงดีมานด์

– นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า กลุ่มยานยนต์ ส.อ.ท.กำลังติดตามความตึงเครียดจีน-ไต้หวัน หลังล่าสุดจีนระงับการส่งออกทราย ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ (ชิป) ไปยังไต้หวัน มีผลตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.65 เพราะหากปัญหายืดเยื้อและไต้หวันไม่อาจหาแหล่งทรายจากประเทศอื่นๆ มาทดแทนได้ จะยิ่งซ้ำเติมปัญหาการขาดแคลนชิปที่หนักขึ้นของอุตสาหกรรมยานยนต์และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง “กลุ่มยานยนต์ต้องติดตามใกล้ชิด ว่าจะเกิดขึ้นนานเพียงใด โดยเฉพาะผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก อาทิ Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. หรือ TSMC จะมีสต๊อกทรายมากน้อยเพียงใด รวมถึงการหาจากแหล่งอื่นมาทดแทนหากยืดเยื้อ เพราะไต้หวันต้องพึ่งพิงทรายจากจีนถึง 90%

– รมว.คลัง “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” ตอบโจทย์ปัญหาเศรษฐกิจไทย จุดอ่อนสำคัญคือ “หนี้ภาคประชาชน” โดยเฉพาะหนี้อุปโภคบริโภค 4 ล้านล้าน ปฏิบัติการร่วมมือเอกชนเบ่งตัวเลข “ส่งออก” ปีนี้ขยายตัว 10% ดึงเอ็กซิมแบงก์ซัพพอร์ตสินเชื่อ-เคลียร์ขั้นตอนศุลกากรส่งสัญญาณบวกนักท่องเที่ยวต่างชาติสิ้นปีมีลุ้น 10 ล้านคน ชี้เศรษฐกิจฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป เตรียมถอนคันเร่งมาตรการเยียวยา เร่งแก้ปมเพิ่ม “พื้นที่การคลัง” คุมเพดานหนี้อุดหนุนสินค้าเกษตร ชี้ดอกเบี้ยขาขึ้นกระทบ “ประชาชน-ธุรกิจ และเงินกู้ภาครัฐ”

 

*หุ้นเด่นวันนี้

– KBANK (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า 170 บาท คาดหวังแบงก์ชาติขึ้นดอกเบี้ยเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร ขณะที่สัปดาห์นี้ยังมีปัจจัยให้เก็งกำไรโดย KBANK เป็นหนึ่งเดียวที่คาดว่าจะได้ปรับเข้าคำนวณในดัชนี MSCI รอบใหม่ (MSCI Rebalance) ประกาศผล 11 ส.ค. และ บังคับใช้ 31 ส.ค. 2565

– JWD (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 16.50 บาท ลุ้นงบไตรมาส 2/65 สวย KTBST ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 ที่ 165 ลบ. +43%YoY, +31%QoQ ในครึ่งหลังปี 65 ประเมินทุกธุรกิจฟื้นตัวเด่น โดยเฉพาะธุรกิจห้องเย็นและขนส่งที่กำลังจะเข้าสู่ช่วง High Season ด้านราคาหุ้น เริ่ม Bottom out การผ่อนคลายการล็อคดาวน์และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน จะทำให้ Sentiment กลุ่ม Logistic ดีขึ้น คาดราคาหุ้น JWD เริ่มฟื้นตัวหลังปรับฐานไปกว่า -30%YTD KTBST ประเมินกำไรสุทธิปี 2022-2023 ที่ 628 ลบ. และ 705 ลบ. +10%YoY, +12%YoY ตามลำดับ

– NSL (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 21 บาท คาดกำไรไตรมาส 2/65 ทำ New High +9% Q-Q, +204% Y-Y ตามรายได้ที่ฟื้นแข็งแกร่งตามการ Reopening เปิดเรียน และนักท่องเที่ยวกลับมา หนุนยอดขายแซนวิชอบร้อนใน 7-11 ทำให้ Utilization Rate สูงขึ้นชดเชยต้นทุนที่เพิ่มได้ แนวโน้มเดือน ก.ค. ยังสดใสต่อเนื่อง คาดกำไรยังโตแรง Y-Y ส่วน Q-Q อาจชะลอบ้างตามปัจจัยฤดูกาล ก่อนเร่งขึ้นในไตรมาส 4/65 อีกครั้งจาก High Season คาดกำไรปีนี้ +30% Y-Y และ +15% Y-Y ปี 2566

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ส.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top