ครม.อนุมัติงบกว่า 4 พันลบ.ให้ 5 กระทรวงบริหารจัดการน้ำช่วงฤดูฝน 65, ฤดูแล้ง 65/66

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบกลาง กรอบวงเงิน 4,019.80 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูฝนปี 2565 และการกักเก็บน้ำเพื่อฤดูแล้งปี 2565/2566 จำนวน 1,361 รายการ ให้กับ 5 กระทรวง 13 หน่วยงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ และเพิ่มศักยภาพในการกักเก็บน้ำเพื่อฤดูแล้งในปี 65/66

โดยพื้นที่เป้าหมาย คือ พื้นที่เสี่ยงเกิดอุทกภัย/ภัยแล้ง ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนด และพื้นที่เสี่ยงที่มีความจำเป็นต้องดำเนินการแก้ไข บรรเทาปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งโดยเร่งด่วน ตามที่หน่วยงานในพื้นที่จังหวัดเสนอผ่านคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดใน 5 กลุ่มประเภทโครงการ ได้แก่ 1.การซ่อมแซม ปรับปรุงอาคารชลศาสตร์ เช่น ซ่อมแซม/ปรับปรุงพนังกั้นน้ำ คันกั้นน้ำ ประตูระบายน้ำ คลองส่ง/ระบายน้ำ อาคารบังคับน้ำ สถานีโทรมาตร เป็นต้น 2.การปรับปรุง แก้ไขสิ่งกีดขวางทางน้ำ และกำจัดผักตบชวา ที่เป็นอุปสรรคต่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การระบายน้ำและการจัดการพื้นที่น้ำท่วม/พื้นที่ชะลอน้ำ 3.การขุดลอกคูคลอง เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ 4.การเตรียมความพร้อมวางแผนเครื่องจักรเครื่องมือ เช่น ซ่อมแซมเครื่องสูบน้ำเครื่องมือเครื่องจักร ยานพาหนะขนย้าย และ 5.การเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนเพื่อเก็บกักไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง เป็นการจัดหาแหล่งน้ำรองรับน้ำส่วนเกินในช่วงฤดูฝนสำรองไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งถัดไป เช่น สระ/อ่างเก็บน้ำ ระบบกระจายน้ำ ธนาคารน้ำใต้ดิน ขุดเจาะบาดาล ปฏิบัติการฝนหลวง เป็นต้น

สำหรับหน่วยงานทั้ง 5 กระทรวง 13 หน่วยงาน ที่จะดำเนินการตามโครงการฯ จำนวน 1,361 รายการ กรอบวงเงิน 4,019.80 ล้านบาท ประกอบด้วย

1. กระทรวงกลาโหม โดยกองทัพบกและหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จำนวน 32 รายการ วงเงิน 23.31 ล้านบาท

2. กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) จำนวน 2 รายการ วงเงิน 76.45 ล้านบาท

3. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จำนวน 411 รายการ วงเงิน 1,190.43 ล้านบาท

4. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล จำนวน 139 รายการ วงเงิน 432.91 ล้านบาท

5. กระทรวงมหาดไทย โดยเทศบาลเมือง เทศบาลตำบล เทศบาลนคร จังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบล รวม 777 รายการ วงเงิน 2,296.70 ล้านบาท

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สทนช.ได้ประเมินว่าหากดำเนินการแล้วเสร็จจะมีพื้นที่รับประโยชน์ประมาณ 35,723 ไร่ มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 34.02 ล้านลูกบาศก์เมตร ประชาชนได้รับประโยชน์ประมาณ 36,735 ครัวเรือน และสามารถกำจัดผักตบชวา/วัชพืชน้ำได้ประมาณ 4.74 ล้านตัน รวมถึงสามารถซ่อมแซม/ปรับปรุงอาคารชลศาสตร์ให้สามารถใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์ จำนวน 394 แห่ง รวมทั้งยังเป็นการเพิ่มการลงทุนภาครัฐโดยการช่วยกระตุ้นการซื้อวัสดุและจ้างแรงงานคนในท้องถิ่นด้วย

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเป็นห่วงการใช้น้ำในการปลูกพืช โดยเฉพาะในการปลูกข้าวที่มีการใช้น้ำจำนวนมากให้เปรียบเทียบปริมาณการใช้น้ำกับประเทศอื่นๆว่า ในประเทศที่มีการปลูกข้าวเช่นเดียวกับประเทศไทย เพื่อหาแนวทางลดการใช้น้ำและสร้างการรับรู้ความเข้าใจการใช้น้ำ ซึ่งไม่อยากให้ใช้น้ำมากเกินไปในการทำนา เพราะขณะนี้มีเทคโนโลยีและผลการวิจัยต่างๆที่ใช้น้ำทำนาไม่มาก แต่ได้ผลผลิตจำนวนมาก จึงมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปดำเนินการในเรื่องนี้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ส.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top