GPI มั่นใจรายได้ H2/65 ตามเป้า จากรับรู้งานในมือ-เล็งจัด 2 อีเวนท์แข่งกีฬารูปแบบใหม่

นายปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (GPI) เปิดเผยถึงแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง มั่นใจว่าจะสร้างการเติบโตตามเป้าหมาย โดยมีปัจจัยหนุนสำคัญจากธุรกิจงานพิมพ์ ซึ่งปัจจุบันมีงานในมือที่รอส่งมอบเกือบ 100 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะแปรรูป (RDF) ในจังหวัดนครสวรรค์ ที่บริษัทฯ ร่วมลงทุนถือหุ้นสัดส่วน 25.75% ในบริษัท ทรูเอ็นเนอร์จี จำกัด โดยมีสัญญาขายไฟฟ้ากับ กฟภ. 9 เมกะวัตต์ จะเริ่มทอยรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ หลังจากปรับปรุงประสิทธิภาพหม้อไอน้ำในการเผาไหม้เชื้อเพลิง (Boilers) ให้สามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีแนวโน้มปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ ค่าเอฟที (Ft) จะเป็นผลบวกต่อผลการดำเนินงานของธุรกิจโรงไฟฟ้าและส่วนแบ่งกำไรที่บริษัทฯ จะได้รับในอนาคต

นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมรุกขยายเข้าสู่การจัดงานอีเวนต์และการแข่งขันกีฬาในรูปแบบ Sport and Entertainment เพิ่มมากขึ้น โดยใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญจากการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ซึ่งเป็นงานเอ็กซิบิชั่นขนาดใหญ่ในระดับภูมิภาคมาต่อยอดขยายธุรกิจ ล่าสุดบริษัทฯ อยู่ระหว่างวางแผนเตรียมการจัดอีเวนต์ใหญ่ 2 งาน ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการแข่งขันกีฬารูปแบบใหม่ และการจัดงานมหกรรมด้านธุรกิจสตาร์ตอัพ เพื่อจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโตตามแผนกลยุทธ์ที่ GPI วางไว้

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก 2565 บริษัทฯ สามารถทำรายได้จากการขายและบริการ 522.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการรับรู้รายได้ของการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2022 และรายได้จากธุรกิจให้บริการรับตกแต่งรถยนต์ ที่สร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ส่วนกำไรสุทธิครึ่งปีแรกอยู่ที่ 117.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นจากการจัดทัวร์นาเมนต์แข่งขันกีฬา ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/65 มีรายได้จากการขายและบริการทรงตัวอยู่ที่ 123.16 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 5.63 ล้านบาท ชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ส.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top