สภาล่มอีก หลังฝ่ายค้านแหกข้อตกลงวิปสองฝ่ายเสนอญัตติด่วนปมวาระนายกฯ 8 ปี

รายงานข่าว แจ้งว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ทำหน้าที่ประธาน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเพื่อขอให้สภาฯ พิจารณาประเด็นวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เนื่องจากเป็นประเด็นที่สำคัญและต้องการเสนอความเห็นไปยังรัฐบาลเพื่อให้ดำเนินการไม่เกิดปัญหา

โดยญัตติดังกล่าวถูกคัดค้านจากฝั่งรัฐบาล โดยนายอรรถกร ศิริลัทยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ญัตติที่ฝ่ายค้านเสนอกังวลว่าจะใช้เวทีของสภาเพื่อกดดันผู้พิจารณาวาระ 8 ปีหรือไม่ ทั้งที่สภาฯ ไม่มีอำนาจ โดยเรื่องนี้ศาลมีอำนาจตัดสินใจว่าจะจบอย่างไร ซึ่งก่อนหน้านี้ในการหารือของวิป 2 ฝ่ายตกลงว่าจะเสนอญัตติด่วนเพื่อแกัปัญหาหนี้นอกระบบ หากจะพิจารณาเรื่องที่ตกลงคือหนี้นอกระบบ ตนจะไม่ติดใจ แต่หากจะยื่นญัตติเรื่องวาระ 8 ปี ตนไม่เห็นด้วย

จากนั้น ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน คือ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ เสนอญัตติในทำนองเดียวกันกับนายสุทิน เพราะมองว่าเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ กระทบต่อความสงบของประเทศ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับฝ่ายบริหาร คณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นไปด้วยเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ พ้นจากตำแหน่งนายกฯ

นายศุภชัย พยายามอธิบายว่า วาระตามที่เสนอญัตติการดำรงตำแหน่งนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ สมาชิกสามารถเข้าชื่อเพื่อร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาได้ถึงการพ้นจากตำแหน่งที่รัฐธรรมนูญกำหนด ดังนั้นมองว่าควรใช้ช่องทางดังกล่าวจะเหมาะสมกว่า

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การเสนอญัตติเพื่ออภิปรายไม่ใช่การชี้ขาด แต่คือเสนอเรื่องไปยังรัฐบาล ทั้งนี้ ไม่ได้ก้าวล่วงในการทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ และไม่หวังจะมีผลทางกฎหมาย แต่เพื่อให้มีผลผูกพันทางจิตสำนึก หากนายกฯ ฟังแล้วและมีสปีริตอาจจะลาออกเองก็ได้

รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมยังคงถกเถียงในประเด็นดังกล่าว และมี ส.ส.พลังประชารัฐ เสนอญัตติให้พิจารณาตามวาระปกติ ขณะที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง โดยตนเข้าใจเหตุผลของฝ่ายค้าน แต่รัฐบาลรู้สึกว่าเป็นเรื่องกดดันและหลอกด่า ขณะนี้ต้องคำนึงว่าจะเหมาะสมหรือก้าวล่วงศาลหรือไม่ อย่างไรก็ดี ตามที่ตกลงคือจะพิจารณาญัตติเรื่องเงินกู้ ซึ่งตนเตรียมมา แต่เมื่อเจอแบบนี้เหมือนถูกหลอก

“ผมเข้าใจฝ่ายค้าน และขอเสนอทางออก คือให้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ ต่อเรื่องนี้ ผมพร้อมร่วมลงชื่อด้วยเป็นชื่อแรก เพราะต้องการถามสามัญสำนึก” นายชาดา กล่าว

หลังจาก ส.ส.ทั้ง 2 ฝ่ายอภิปรายเหตุผลพอสมควร นายศุภชัย เรียก ส.ส.ให้แสดงตนก่อนลงมติปรากฎว่า มีผู้มาแสดงตนเป็นองค์ประชุม 124 คน ทำให้นายศุภชัย กล่าวว่า “เมื่อแสดงตนแล้วไม่ครบองค์ประชุมที่ต้องใช้ 239 คน ผมขอปิดประชุม”

อย่างไรก็ดี นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ขอหารือว่าเครื่องหรือระบบอาจจะมีปัญหาก็ได้ เพราะจากที่มองด้วยสายตา พบว่ามีผู้ที่นั่งในห้องประชุมเยอะกว่า 124 คน แต่กลับเดินหน้าปิดประชุมแล้ว ขณะที่ก่อนหน้านั้น นายสุเทพ อู่อ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอให้พิจารณาค่าตอบแทนของ ส.ส. ที่พบว่าไม่ทำหน้าที่ด้วย ขณะที่บรรยากาศในห้องประชุม พบว่าที่นั่งของฝั่งรัฐบาลมี ส.ส.นั่งกันอยู่อย่างบางตา

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ส.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top