HL เผย Q2/65 กำไรโต 27% ตามยอดขายสาขาเดิม-ใหม่ ลุยเปิดเพิ่ม 8 แห่ง-ออกสินค้าใหม่

ภก.ธัชพล ชลวัฒนสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เฮลท์ลีด (HL) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 2/65 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 18 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 365 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีรายได้รวมเท่ากับ 298 ล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯในงวด 6 เดือนแรกของปี 65 มีรายได้รวม 740 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 557 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 32ล้านบาท

ปัจจัยสนับสนุนการเติบโตมาจากรายได้ทุกประเภทปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ รายได้จากการขายสินค้าบริโภค, รายได้จากการขายอุปกรณ์การแพทย์และของใช้ในบ้าน, รายได้จากการขายสินค้าสุขภาพสำหรับภายนอกร่างกาย และรายได้จากการขายยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มให้ความใส่ใจในการดูแลสุขภาพมากขึ้น ทำให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ทุกประเภทเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเภทสินค้าอุปกรณ์การแพทย์และสินค้าเพื่อสุขภาพ ประกอบกับในไตรมาส 2/65 บริษัทฯได้เปิดร้านขายยาเพิ่ม 1 สาขา ได้แก่ iCare สาขาลาซาล ส่งผลให้มียอดขายจากสาขาใหม่เข้ามาสนับสนุนการเติบโต

“ผลประกอบการในไตรมาส 2/65 ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ทำให้ผู้บริโภคเริ่มให้ความใส่ใจในการดูแลสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ทุกประเภทเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเภทสินค้าอุปกรณ์การแพทย์และสินค้าเพื่อสุขภาพ สนับสนุนยอดขายทั้งจากสาขาเดิมและสาขาใหม่เติบโตได้ดี ขณะที่บริษัทฯ ยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ความสามารถของอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 23.54% สูงกว่า 22.27% ของงวดเดียวกันปีก่อน”

ภก.ธัชพล กล่าว

บริษัทมั่นใจว่ารายได้รวมในปีนี้จะเติบโตมากกว่า 20% จากปีก่อนที่ทำได้ 1,216 ล้านบาท ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากรายได้ 6 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 740 ล้านบาท คิดเป็นเติบโต 33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดการณ์ว่าแนวโน้มในครึ่งปีหลังน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ จะมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ให้มีความหลากหลายตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกกลุ่มอายุ ภายใต้แบรนด์ของตัวเอง เพื่อเจาะกลุ่มตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ พร้อมทั้งขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ PRIME และ BESUTO มากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด โดยตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่อีก 8 สาขาในพื้นที่เขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เนื่องจากมองว่าเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูง

ปัจจุบันบริษัทฯ มีร้านขายยารวมทั้งสิ้น 28 สาขา ประกอบไปด้วย แบรนด์ Pharmax จำนวน 13 สาขา, iCare จำนวน 11 สาขา, Vitaminclub จำนวน 3 สาขาและ Super Drug จำนวน 1 สาขา และมีสินค้าที่จัดจำหน่ายรวมกว่า 10,000 รายการ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ส.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top