เงินบาทเปิด 36.67 กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง มองกรอบ 36.55-36.75

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 36.67 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 36.26 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าจากเย็นวาน ตามทิศทางของสกุลเงินอื่นในภูมิภาค หลังจากเมื่อคืนนี้ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐเดือน ส.ค.ออกมาอยู่ที่ 8.3% สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ระดับ 8% ทำให้ตลาดเริ่มกลับมากังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงในการประชุมสัปดาห์หน้า โดยอาจปรับขึ้นอย่างต่ำ 0.75% ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่น ในขณะที่นักลงทุนเลี่ยงการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง

“เมื่อคืนดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุล เพราะเงินเฟ้อเดือนล่าสุดออกมาที่ 8.3% ซึ่งแม้จะชะลอลงจาก 8.5% ในเดือนก่อนหน้า แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับสูง ทำให้ตลาดกังวลว่าเฟดรอบนี้จะปรับขึ้นดอกเบี้ยไม่ต่ำกว่า 0.75% และมีโอกาสจะปรับขึ้น 1% ได้”

นักบริหารเงิน ระบุ

วันนี้ทิศทางเงินบาทยังอ่อนค่า ระหว่างวันตลาดคงจะย่อยข่าวเรื่องแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดเป็นปัจจัยหลัก ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมคณะตุลาการเพื่อพิจารณาคำร้องปมวาระนายกฯ 8 ปีนั้น มองว่ามีผลจำกัดต่อค่าเงินบาท

นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.55-36.75 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (13 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.80141% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.91815%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 144.65 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 142.24 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 10.9980 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0163 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 36.292 บาท/ดอลลาร์
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (13 ก.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่พุ่งขึ้นสูงกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันอังคาร (13 ก.ย.) โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลลาร์ และความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้น 8.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.1% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 6.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.1%
  • นักลงทุนเริ่มคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีโอกาสจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโดยบายแรงถึง 1.00% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลข CPI ที่สูงกว่าคาด
  • FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 32% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% สู่ระดับ 3.25-3.50% ในการประชุมเดือนนี้ และให้น้ำหนัก 82% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%
  • ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า การควบคุมเงินเฟ้อจำเป็นต้องใช้เวลามากขึ้น หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาดเมื่อคืนนี้
  • เมื่อคืนที่ผ่านมา บิตคอยน์ดิ่งลง 5.62% สู่ระดับ 21,160 ดอลลาร์ ในแพลตฟอร์ม Coinbase โดยดิ่งลงอย่างต่อเนื่องใกล้หลุดระดับ 21,000 ดอลลาร์ ทั้งนี้ ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีร่วงลงตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีทท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
  • สหรัฐฯ จะรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนส.ค., ดัชนีภาคการผลิต เดือนก.ย.จากเฟดนิวยอร์ก, ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนส.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.ย.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.ย. 65)

Tags: , ,
Back to Top