บอร์ดนโยบายแร่ เคาะแผนแม่บทปี 66-70 ต่อยอดบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการแร่แห่งชาติ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้พิจารณาร่างแผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2566- 2570) ซึ่งเป็นการต่อยอดการปฏิรูปการบริหารจัดการแร่ให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ประชาชนเข้าใจและมีส่วนร่วม และส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรม เพื่อใช้ประโยชน์ทรัพยากรมนุษย์อย่างคุ้มค่าและยั่งยืน

โดยมีแนวทางการพัฒนา 4 ด้าน คือ ด้านที่ 1 การพัฒนาประสิทธิภาพในการบริหารจัดการแร่ ด้านที่ 2 การพัฒนากลไกการอนุญาต กำกับดูแล และการจัดสรรผลประโยชน์จากการใช้ทรัพยากรแร่ ด้านที่ 3 การวิจัยพัฒนานวัตกรรมหรือเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อมและการใช้ประโยชน์จากแร่ และด้านที่ 4 การสร้างความรู้ความเข้าใจ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมภาคประชาชน

ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างแผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2566-2570 และมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการฯ ดำเนินการตามมติที่ประชุม และเสนอร่างแผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2566-2570 ต่อสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาต่อไป

อย่างไรก็ดี หาก สศช.มีความเห็นให้ปรับปรุงแก้ไขร่างแผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ ฉบับที่ 2 ให้ฝ่ายเลขานุการฯ พิจารณาปรับปรุงแก้ไขตามความเห็นของ สศช. โดยไม่ต้องนำกลับมาให้คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการแร่แห่งชาติ (คนร.) พิจารณาอีก

นายอนุชา กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมรับทราบมติ ครม.เมื่อวันที่ 15 ก.พ.65 ที่เห็นชอบให้แผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ พ.ศ.2560-2564 มีผลใช้ได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.65 และให้เร่งรัดจัดทำแผนแม่บทการจัดการแร่ ฉบับที่ 2 ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปประกอบการพิจารณาดำเนินการด้วย เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย

รวมถึงรับทราบมติ ครม.เมื่อวันที่ 2 ส.ค.65 เห็นชอบในหลักการต่อนโยบายด้านอุตสาหกรรมเหมืองแร่และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง และมอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรม (โดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่) และกรมทรัพยากรธรณี ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการแร่แห่งชาติ ปรับปรุงแก้ไขร่างแผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2566- 2570 ให้มีความชัดเจนและสอดคล้องกับมติ ครม.ดังกล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.ย. 65)

Tags: , , ,
Back to Top