เพจลุงตู่ตูน เปิดผลงาน “ประยุทธ์” ช่วง 8 ปี ก่อนศาลรธน.วินิจฉัยบ่ายนี้

เพจเฟซบุ๊ก “ลุงตู่ตูน” โพสต์ข้อความ 8 ปี ชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย ยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทุกคนต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างเท่าเทียม พร้อมภาพประกอบเกี่ยวกับการดำเนินโครงการด้านคมนาคมขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลายโครงการ ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยกรณีการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบวาระ 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในบ่ายวันนี้ (30 ก.ย.) โดยยกตัวอย่าง ได้แก่

– การยกระดับสาธารณสุขของประเทศ โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตโควิดที่หลายประเทศประสบปัญหาอย่างหนัก แต่คนไทยได้รับการดูแลอย่างดี ทั้งการเข้ารับการรักษา และการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง

– การยกระดับการดูแลกลุ่มเปราะบาง ช่วยเหลือตรงจุด ทั้งบัตรคนจน คนพิการ คนแก่ “ลุงตู่” อนุมัติงบประมาณถึงมือกลุ่มเป้าหมาย แตกต่างจากทุกรัฐบาลที่ช่วยเหลือแบบเหวี่ยงแห ไม่ถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการความช่วยเหลือ

– การยกระดับคนเมือง ปรับปรุงสวนสาธารณะในกทม.จนเป็นแหล่งท่องเที่ยว พักผ่อน ออกกำลังกาย พร้อมทั้งพัฒนาชุมชนริมคลองให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

– การยกระดับการช่วยเหลือเกษตรกร ดูแลเกษตรกรผ่านโครงการช่วยเหลือต่างๆ โดยทุกโครงการเงินต้องถึงมือประชาชน ไร้การทุจริตจนสูญเสียงบประมาณ เหมือนรัฐบาลชุดก่อนๆ

ทั้งนี้ เพจเฟซบุ๊ก “ลุงตู่ตูน” ระบุว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นที่ฐานที่ล่าช้า การขนส่ง การคมนาคม ที่ล้าหลัง เป็นอุปสรรคของการพัฒนาประเทศ 8 ปีของ “ลุงตู่” เราจึงเห็นการก่อสร้างระบบคมนาคมแบบก้าวกระโดด มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าหลายสายใน กทม. และปริมณฑล เพื่อยกระดับคนเมือง พร้อมยกระดับคมนาคมทางราง ก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เพิ่มความรวดเร็วในการขนส่งสินค้า และการเดินทาง

นอกจากนี้ ได้มีการสร้างรถไฟฟ้าทางคู่ เพื่อไม่ให้เสียเวลาในการเดินทาง และการขนส่งสินค้า ขณะเดียวกัน มีการพัฒนาการคมนาคมทางถนน ด้วยการก่อสร้างทางด่วนเชื่อมเส้นทางหลัก อาทิ มอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช มอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี เป็นต้น

“ลุงตู่” ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในทุกมิติ เพราะรู้ว่าประเทศจะไม่สามารถพัฒนาได้ทะลุขีดจำกัด หากโครงสร้างพื้นฐานยังมีปัญหา พร้อมเดินหน้ายกระดับคุณชีวิตคนไทยในทุกด้าน และช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางทุกคน โดยปราศจากการทุจริต

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ก.ย. 65)

Tags: , , , , ,
Back to Top