JMT เสนอขายหุ้นกู้อายุ 3 ปีดอกเบี้ย 4.10% สถาบัน-รายใหญ่จองซื้อ 4-6 ต.ค.นี้

นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) เปิดเผยว่า JMT เดินหน้าเสนอขายหุ้นกู้ระยะยาวอายุ 3 ปี ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2568 ซึ่งได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.10% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน มูลค่าที่ตราไว้หน่วยละ 1,000 บาท กำหนดราคาที่เสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท เสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยมีมูลค่าการเสนอขายรวมในครั้งนี้ไม่เกิน 3,375 ล้านบาท

บริษัทฯ เตรียมนำเงินทุนที่ได้ใช้สนับสนุนการขยายธุรกิจ รองรับการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหาร สร้างเสถียรภาพด้านการบริหารต้นทุนทางการเงินและดอกเบี้ย รับโอกาสจากภาพรวมหนี้เสียในระบบที่ปรับตัวขึ้น รวมถึงนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ ขณะที่ ผลการดำเนินงานของ JMT มีความแข็งแกร่ง แม้ภายใต้วิกฤตจากสถานการณ์โควิดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ด้วยปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจและการลงทุน แต่ด้วย JMT มีรูปแบบธุรกิจที่สามารถสร้างโอกาสได้ทั้งในภาวะเศรษฐกิจขาขึ้นและชะลอตัว จึงสนับสนุนให้วันนี้ JMT เป็นผู้นำธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพภาคเอกชนรายใหญ่ของไทย และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

สำหรับผลงานในช่วงโค้งสุดท้ายของปี JMT เตรียมลุยซื้อหนี้โตแบบติดสปีด จาก ณ งวดครึ่งปีแรก มีพอร์ตบริหารหนี้ด้อยคุณภาพทะลุ 2.38 แสนล้านบาท

“เรามั่นใจว่า หุ้นกู้ของ JMT จะได้รับการตอบรับที่ดี ด้วยผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นกู้ที่ออกมาครั้งนี้ เมื่อพิจารณาร่วมกับอันดับเครดิต โดยทริสเรทติ้งจัดอันดับความน่าเชื่อถือบริษัทและหุ้นกู้ที่ระดับ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่ (Stable)” จะสามารถตอบโจทย์ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ ภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และความเชื่อมั่นต่อบริษัทฯ มีแนวโน้มผลประกอบการอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น สามารถสร้างการเติบโตที่มั่นคง ควบคู่การบริหารกระแสเงินสดได้อย่างแข็งแกร่ง”

นายสุทธิรักษ์ กล่าว

ด้าน 6 สถาบันการเงินชั้นนำให้ความเชื่อมั่น ผนึกกำลังเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ กำหนดเปิดจองระหว่างวันที่ 4 – 6 ตุลาคม พ.ศ. 2565 นี้ โดยผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ได้ดังนี้ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย บล.เกียรตินาคินภัทร (รวมธนาคารเกียรตินาคินภัทร) บล. เอเชีย พลัส บล.โนมูระพัฒนสิน และ บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ต.ค. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top